Warehouse 4.0 คือ

เจาะลึก Warehouse 4.0 รูปแบบคลังสินค้าแห่งอนาคต

         คลังสินค้าหรือ Warehouse นับได้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบโลจิสติกส์ ด้วยเหตุนี้การดำเนินงานต่าง ๆ ของคลังสินค้าจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญของการบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ ระบบการจัดการสินค้าคงคลังที่ดีจะสามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการจัดการ ลดต้นทุนในการขนส่ง  รวมไปถึงการจัดการส่งสินค้าไปยังลูกค้าปลายทางได้อย่างถูกต้อง แม่นยำ ทันเวลา และสินค้าอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์

         แต่เดิม ผู้ประกอบการส่วนใหญ่มักจะประสบปัญหาเรื่องการบริหารจัดการคลังสินค้า ไม่ว่าจะเป็นไม่สามารถคาดการณ์ขนาดของพื้นที่ที่จะใช้ในการจัดเก็บสินค้าให้เหมาะสม การควบคุมคุณภาพสินค้าขณะอยู่ในคลังสินค้า ลำดับการจัดเรียงสินค้าก่อนหลัง การขาดแคลนแรงงาน หรือแรงงานไม่มีทักษะตรงตามที่ต้องการ รวมทั้งความประมาทเลินเล่อและความบกพร่องต่าง ๆ ของแรงงาน จนเกิดปัญหาสินค้าคงเหลือมากเกินไปหรือสินค้าไม่พอส่ง คุณภาพสินค้าเสื่อมลงจากการจัดเก็บ การส่งสินค้าไม่ครบ ส่งล่าช้า หรือส่งลูกค้าผิดราย เป็นต้น

ระบบ Warehouse 4.0

         เมื่ออุตสาหกรรมโลจิสติกส์ก้าวหน้า การจัดการคลังสินค้าจึงได้รับการพัฒนาตามไปด้วย การประกาศนโยบาย Thailand 4.0 ของรัฐบาล เป็นการกระตุ้นให้อุตสาหกรรมแทบทุกแขนง โดยเฉพาะในกลุ่ม New S-curve ซึ่งรวมถึงอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ต้องเร่งปรับตัวให้ทัน นั้นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Logistics 4.0 ซึ่งพ่วงระบบ Warehouse 4.0 มาด้วยโดยปริยาย

คลังสินค้าที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี

         Warehouse 4.0 ได้มีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เป็นศูนย์กลางในการขับเคลื่อนระบบการจัดการภายในเพื่อการดำเนินงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยกระบวนการจัดการพื้นฐานต่าง ๆ ถูกแทนที่ด้วยเทคโนโลยี เครื่องจักรและหุ่นยนต์เพื่อความแม่นยำ ความรวดเร็ว ติดตามข้อมูลย้อนหลังได้ รวมไปถึงการลดความผิดพลาดจากการทำงานของมนุษย์ ช่วยประหยัดงบประมาณจากการจ้างแรงงานยกตัวอย่างเช่น Warehouse 4.0 ในประเทศสิงคโปร์ที่สามารถทำการส่งออกสินค้าได้ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง หลังจากมีการสั่งซื้อ โดยใช้เทคโนโลยีจัดการแบบอัตโนมัติ ตั้งแต่การรับคำสั่งซื้อจนกระทั่งถึงการนำเข้าสู่กระบวนการขนส่ง ที่มีความเที่ยงตรง และรวดเร็วขึ้นมาก ด้วยเหตุนี้การที่จะเป็น Warehouse 4.0 ได้นั้นสิ่งสำคัญที่จะต้องมีคือระบบโซลูชันการบริหารจัดการคลังสินค้า หรือที่เรียกว่า WMS (Warehouse Management Software)

ระบบ Warehouse 4.0
ระบบ Warehouse 4.0

WMS ส่วนประกอบสำคัญของ Warehouse 4.0

         องค์ประกอบที่ทำให้ระบบ Warehouse 4.0 ก้าวไกล คือการนำ WMS มาใช้จัดระบบการจัดการคลังสินค้า

         WMS (Warehouse Management Software) คือโซลูชันที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลควบคุมการบริหารจัดการคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพ ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการสั่งซื้อสินค้า การวางตำแหน่งของสินค้าแต่ละชิ้น การเคลื่อนย้าย การคำนวณพื้นที่จัดเก็บ ตลอดจนถึงการจัดเตรียมการขนส่ง

         WMS ทำหน้าที่เสมือนสมองส่วนกลางที่ควบคุมระบบภายใน เป็นศูนย์กลางเชื่อมโยงข้อมูล จัดเก็บ ประมวลผล และออกคำสั่งไปยังส่วนต่าง ๆ ภายในคลังสินค้า รวมทั้งการสั่งเครื่องจักร หรือหุ่นยนต์ปฏิบัติการ กระบวนการทั้งหมดเชื่อมโยงผ่านระบบออนไลน์

         ยิ่งไปกว่านั้นเทคโนโลยีดังกล่าวยังสามารถบริหารคลังสินค้าได้หลายแห่ง (Multi-Warehouse) ไปพร้อม ๆ กัน โดยใช้การควบคุมจากเจ้าหน้าที่เพียงไม่กี่คน ช่วยให้ประหยัดเวลา ลดการใช้กำลังคน และลดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ เช่น ค่าเดินทาง ค่าล่วงเวลาในการทำงาน เป็นต้น

ข้อดี Warehouse 4.0

ข้อดีของ WMS

การปรับระบบคลังสินค้าโดยใช้ WMS โซลูชันส่งผลดีต่อการดำเนินธุรกิจหลายด้าน

  • ประเมินสินค้าในคลังได้แม่นยำมากขึ้น การใช้ระบบ WMS ควบคู่กับเทคโนโลยีเซนเซอร์ไร้สาย ช่วยให้เจ้าของธุรกิจสามารถประเมินสต็อกสินค้าได้อย่างแม่นยำ เซนเซอร์จะทำหน้าที่บอกตำแหน่งของ Slot ภายในคลังสินค้าที่ยังว่าง ทำให้การบริหารจัดการง่ายขึ้น ทั้งยังช่วยระบุชื่อรายการสินค้า จำนวนที่มีอยู่ ระยะเวลาที่อยู่ในคลังสินค้า จนถึงสถานที่จัดเก็บ
  • กระบวนการสั่งซื้อ จัดการได้อย่างรวดเร็ว WMS สามารถเข้าถึงการทำงานของระบบภายในคลังสินค้าได้ทุกส่วนงาน เมื่อมีคำสั่งซื้อปรากฏขึ้น ระบบจะทำหน้าที่เบิกจ่ายสินค้า พร้อมการส่งโดยอัตโนมัติผ่านเครื่องจักร กระบวนการสั่งซื้อสินค้าจัดการได้รวดเร็วยิ่งขึ้น และสามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง
  • การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สะดวกยิ่งขึ้น โดยปกติ การดำเนินการในคลังสินค้าจะใช้แรงงานคนจำนวนมาก พร้อมทั้งใช้ยานพาหนะขับเคลื่อนไปมา ดังนั้นภายในคลังสินค้าที่มีขนาดใหญ่ การขนส่ง หรือค้นหาสินค้าแต่ละชิ้น เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลานาน

         WMS ใช้ระบบปฏิบัติการส่วนใหญ่ผ่านเครื่องจักร ควบคุมด้วยแพลตฟอร์มดิจิทัล ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถค้นหาสินค้า เช็กสต็อก และทำการเบิกจ่ายได้สะดวกยิ่งขึ้น ช่วยประหยัดเวลา เท่ากับเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

  • จัดเก็บสินค้าในพื้นที่ที่จำกัดได้มากยิ่งขึ้น คลังสินค้าทั่วไปมักใช้พื้นที่ที่มีขนาดใหญ่ในการจัดเก็บสินค้า แต่ Warehouse 4.0 สามารถช่วยให้จัดเก็บสินค้าในพื้นที่จำกัดได้ โดยใช้ระบบจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้าแบบอัตโนมัติ หรือ AS/RS (Automated Storage and Retrieval System)

         AS/RS ประกอบด้วยอุปกรณ์หลัก คือ ชั้นวางสินค้า (AS/RS Racking) ซึ่งเป็นโครงสร้างเหล็กที่แบ่งเป็นช่องจำนวนมาก จัดเก็บสินค้าในแนวราบโดยซ้อนกันเป็นชั้นในแนวดิ่ง ใช้เครนหรือเครื่องจักรในการจัดเก็บและเบิกจ่ายสินค้า นอกจากนั้นยังมี S/RM (Storage and Retrieval Machine) ที่สามารถเคลื่อนที่ได้ทั้งแนวราบและแนวดิ่ง ในการนำสินค้าเข้าและออกจากชั้นวางสินค้า เครื่องจักรดังกล่าวควบคุมผ่าน WCS (Warehouse Control System) หรือระบบควบคุมคลังสินค้า และ WMS (Warehouse Management System) หรือระบบบริหารคลังสินค้า ระบบดังกล่าวสามารถทำให้การจัดเก็บสินค้าจำนวนมากได้ในพื้นที่จำกัด

  • ลดความผิดพลาด ทำงานได้เร็วขึ้น ความผิดพลาดที่เกิดจากแรงงานคน (Human Error) เป็นปัญหาที่แก้ไขได้ค่อนข้างลำบาก การใช้เครื่องจักรที่ควบคุมผ่านระบบดิจิทัล สามารถลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดในจุดนี้ได้อย่างดี นอกจากนี้ เครื่องจักรยังสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องหยุดพัก ทำให้ได้งานที่รวดเร็วกว่าแรงงานคนหลายเท่า
  • ตรวจสอบคุณภาพสินค้าในคลังได้ นอกจากบันทึกรายการสินค้าและตำแหน่งแล้ว ความสามารถอีกอย่างหนี่งที่ระบบ Warehouse 4.0 ทำได้อย่างดี คือการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าเพราะสินค้าแต่ละชิ้นมีระยะเวลาการเสื่อมสภาพ และการดูแลรักษาที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะสินค้าประเภทอาหารที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ระบบ WMS สามารถบันทึกเวลาการเสื่อมสภาพของสินค้าทุกชิ้น เพื่อลำดับการนำส่งสินค้าที่ถูกต้อง

         NT Solution มีแพ็กเกจที่เหมาะกับธุรกิจโรงงาน ผู้ผลิตสินค้า คลังสินค้า และบริษัทด้านโลจิสติกส์ ด้วยทีมงานที่มีความชำนาญในการช่วยออกแบบระบบให้เหมาะสมกับรูปแบบโรงงาน และความต้องการในการเชื่อมโยงกับสาขา หรือเครือข่ายธุรกิจทั่วทั้งในประเทศและต่างประเทศ

         มีประเภทบริการที่หลากหลาย ได้แก่ 

         การใช้งานเลขหมายโทรศัพท์ผ่าน IP Network สามารถกำหนดสายนอกและสายในได้อย่างสะดวก บริการเชื่อมโยงการโทรเบอร์ประจำ office เข้ากับมือถือ ผ่าน IP Phone Apps เพิ่มความสะดวกสบายในการติดต่อลูกค้าบริการ 

         Broadband Internet ความเร็วระดับ Gigabit ช่วยให้การรับส่งข้อมูลขนาดใหญ่ระหว่างสาขา หรือเครือข่าย เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

         บริการ Back-up ผ่านโครงข่าย Next Generation Wireless ช่วยให้ระบบงานที่สำคัญไม่ขาดการติดต่อ

         ทุกแพ็กเกจจะทำการสำรวจพื้นที่ทุกครั้งก่อนติดตั้ง เพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งระบบ และผู้ใช้งานจะสามารถใช้งานได้สะดวกและมีประสิทธิภาพได้จริง รวมทั้งให้คำปรึกษาฟรีตลอดการใช้งาน ตั้งแต่การออกแบบระบบ ปรับปรุงระบบ และติดตั้งระบบ

         สอบถามบริการและแพ็กเกจ NT Solution ได้ที่ Contact Center เบอร์ 1888
หรือติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ www.nt-metro-service.com/contact-us 

Scroll to Top
nt-business-solution-expert Popup