E-learning คืออะไร? ทำไมถึงจำเป็นต่อการศึกษา
การเข้าสู่ยุคของดิจิทัลไม่เพียงแต่มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาขับเคลื่อนการใช้ชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังมีการนำไปประยุกต์ใช้กับการศึกษา โดยพลิกโฉมจากการสอนแบบเดิมให้กลายเป็นรูปแบบที่น่าสนใจมากขึ้น และผู้เรียนเองก็ยังสามารถเข้าถึงการเรียนรู้เหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย ผ่านอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบอินเทอร์เน็ต
การเรียนรู้ที่ว่านี้คือ ระบบ E-learning สื่อการเรียนรู้ที่ได้ทำลายกรอบการเรียนรู้แบบเดิม ๆ และทำให้การเรียนรู้เป็นสิ่งที่ไร้พรมแดน
E-learning คืออะไร
E-learning คือ การเรียนรู้ผ่านตัวกลางที่เป็นสื่อเทคโนโลยีหรือออนไลน์ ที่ช่วยลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่เรียน ผู้สอนสามารถนำเสนอไอเดียการเรียนรู้ได้หลากหลายรูปแบบ และทางผู้เรียนสามารถเลือกเรียนในเรื่องที่ตนเองต้องการ
ตัวอย่างของการใช้ E-learning เช่น
- คอมพิวเตอร์ช่วยสอน
- การสอนบนเว็บไซต์
- การเรียนออนไลน์
- การเรียนทางไกลผ่านดาวเทียม
ประโยชน์ของ E-learning มีอะไรบ้าง
การเรียนออนไลน์ผ่านระบบ E-learning นั้นมีความแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนแบบเดิม จากที่ต้องเรียนในช่วงเวลาที่ถูกกำหนดไว้ตามตารางเรียน และบางครั้งเกิดการรบกวนจากสภาพแวดล้อมทำให้เรียนได้ไม่ครบถ้วน ดังนั้นการเรียนออนไลน์ผ่าน E-learning คือคำตอบ ซึ่งมีประโยชน์ด้านต่าง ๆ ได้แก่
เลือกจัดตารางเรียนเองได้
เมื่อสื่อการเรียนรู้ถูกนำเข้าสู่โลกออนไลน์ ผู้เรียนจึงสามารถเข้าถึงบทเรียนได้ตลอดเวลาจากที่ไหนก็ได้ ทำให้การเรียนออนไลน์นั้นสามารถเลือกจัดเวลาเรียนด้วยตนเองขึ้นอยู่กับความสะดวกของผู้เรียนได้เลย
สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ที่ดียิ่งขึ้น
ปัจจุบัน E-learning ถูกพัฒนาให้มีหลากหลายรูปแบบ ทำให้สถานศึกษาหลายแห่งนำไปใช้เพื่อประกอบการเรียนการสอนในหลักสูตรต่าง ๆ ซึ่งนอกจากช่วยดึงดูดความสนใจของผู้เรียนได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังส่งเสริมความเข้าใจในบทเรียนได้ดียิ่งขึ้น เช่น การนำคลิปวิดีโอ ภาพกราฟิกไปใช้ การนำเกม (Gamification) แบบทดสอบ หรือการบ้านลงไปในสื่อการเรียนการสอนก็จะช่วยเพิ่มความสนุกสนานให้การเรียนแต่ละครั้งมีความน่าสนใจมากขึ้น
เลือกเรียนซ้ำหรือข้ามเนื้อหาได้
สื่อการสอนที่เป็นรูปแบบดิจิทัล จึงสามารถแบ่งเนื้อหาตามบทเรียนให้ได้ชัดเจน และทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกกลับมาเรียนซ้ำได้ ในกรณีที่ไม่เข้าใจในเนื้อหา หรือสำหรับคนที่เคยเข้าใจในบางส่วนของเนื้อหาแล้วจะสามารถกดข้ามไปเรียนบทอื่นได้ตามความต้องการ
ผู้เรียนและผู้สอนสามารถโต้ตอบกันได้หลายช่องทาง
เมื่อเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าย่อมทำให้การเรียนการสอนมีความสะดวกมากขึ้น และทำให้ผู้สอนมีช่องทางการติดต่อสื่อสาร โต้ตอบกับผู้เรียนได้อย่างยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนตามรูปแบบการใช้งานได้ดีมากขึ้น รวมทั้งช่วยให้การเรียนออนไลน์เป็นแบบ Two way communication เปิดโอกาสให้ผู้เรียนและผู้สอนสามารถโต้ตอบกันได้แม้ว่าจะไม่ได้เดินทางไปเรียนในสถานที่จริงก็ตาม
ช่วยประหยัดเวลาที่ต้องใช้ในการเดินทาง
ก่อนหน้าที่จะมีโควิดเข้ามา ผู้เรียนจะต้องเดินทางเพื่อไปเรียนในห้องเรียน ทำให้บางคนต้องเสียเวลาเดินทางยาวนาน และเสียค่าใช้จ่ายต่าง ๆ แต่ปัจจุบันการเรียนออนไลน์นั้นสามารถเรียนที่ไหนก็ได้ จึงช่วยให้เราสบายมากขึ้น และประหยัด
ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ได้ด้วย
อัปเดตเนื้อหาการเรียนได้ตลอด
เนื้อหาที่อยู่ใน E-learning นั้นเกิดจากการออกแบบของผู้สอน ทำให้ผู้สอนสามารถเปลี่ยนแปลง อัปเดตเนื้อหาการเรียนให้ทันสมัยได้ตลอดเวลา ทั้งยังสามารถดูสถิติหลังบ้านทำให้ทราบฟีดแบ็กจากผู้เรียนแล้วนำไปพัฒนาเนื้อหาให้ตอบโจทย์ผู้เรียนมากขึ้น
ระบบ E-learning สำคัญต่อระบบการศึกษาอย่างไร?
E-learning เป็นการนำเนื้อหาการเรียน การสอนมาปรับเปลี่ยนให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล จากนั้นจึงนำขึ้นสู่บนเว็บไซต์หรือระบบที่ผู้เรียนสามารถเข้าถึงได้ ทำให้ระบบการเรียนรู้ผ่านดิจิทัลนี้สามารถทลายกรอบการเรียนรู้แบบเดิมทิ้งไป ผู้คนไม่จำเป็นต้องเรียนแค่เฉพาะในห้องเรียน แต่สามารถเรียนด้วยตัวเองได้เลย
ตัวอย่างการนำ E-learning ไปใช้ในระบบการศึกษา
เมื่อการเรียนออนไลน์ ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้สะดวกมากขึ้นผ่านอินเทอร์เน็ต มาดูตัวอย่างการนำระบบ E-learning ไปใช้ในรูปแบบของการสอนออนไลน์ที่เกิดประสิทธิภาพต่อผู้เรียนนั้น ได้แก่
1. การเรียนรู้กับผู้ใหญ่ในวัยทำงาน
สำหรับการทำงานในวัยผู้ใหญ่นั้น ยิ่งมีอายุหรือตำแหน่งงานที่สูงขึ้น การแบ่งเวลาว่างไปเรียนต่อหรือหาความรู้ในห้องเรียนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลายสถาบันการศึกษาจึงนำ E-learning มาประยุกต์ในการเรียนออนไลน์ช่วยให้คนทำงานที่มีเวลาน้อยได้จัดตารางเรียนของตนเองให้เหมาะสม
2. การเรียนรู้เพื่อปรับใช้ในองค์กร
องค์กรส่วนใหญ่ใช้ E-learning ในการเพิ่มความรู้ให้กับพนักงาน ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานของทั้งคนและองค์กรให้มีการพัฒนาอยู่เสมอ ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้ลดต้นทุนการเทรนนิ่งของพนักงานและหันไปใช้ระบบการเรียนรู้บนออนไลน์แทน เมื่อเรียนจบแล้วผู้เรียนสามารถนำเอาความรู้นั้นไปใช้ในสายงานได้จริงและช่วยเพิ่มโอกาสในการเปลี่ยนสายงานได้เช่นกัน
3. การศึกษาในระบบออนไลน์ของสถานศึกษา
ยุคนี้สถานศึกษาหลายแห่งได้ออกแบบเนื้อหาในรูปแบบของ E-learning ได้เปิดให้ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเรียนได้ตามความต้องการ จึงถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนนอกที่ไม่ใช่นักเรียน นักศึกษา สามารถเรียนได้อย่างไม่มีข้อจำกัด
VR ตัวช่วยเสริมให้ E-learning ไม่น่าเบื่อ
E-learning ได้กลายเป็นสิ่งปกติที่ทุกคนคุ้นชินกันแล้ว บางสถานศึกษานำวิดีโอ ภาพกราฟิกต่าง ๆ เข้าไปเสริมประกอบการเรียนการสอนในระบบแบบ E-learning เพื่อดึงดูดความสนใจของผู้เรียน แต่เมื่อเวลาผ่านไปสิ่งหล่านี้อาจไม่เพียงพอจนต้องหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ อย่างเช่น เทคโนโลยี VR ที่เป็นตัวช่วยเสริมให้ผู้เรียนมีความรู้สึกราวกับว่าอยู่ในห้องเรียนจริง ๆ สามารถโต้ตอบกับผู้สอนได้ โดยสามารถนำไปปรับใช้ให้เข้ากับการเรียนการสอนหลายสาขา เช่น
- วิชาการแพทย์ นอกจากการเรียนทางภาคทฤษฎีแล้วจะต้องมีภาคปฏิบัติอย่างการผ่าตัดจริง การวินิจฉัยอาการคนไข้พร้อมให้คำแนะนำจริง แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันอาจไม่อำนวย การใช้เทคโนโลยี VR จะช่วยให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ผ่านสถานการณ์จำลองและไม่ต้องเดินทางไปสถานที่จริง
- วิชาวิทยาศาสตร์ แน่นอนว่าการเรียนวิทยาศาสตร์จะมีการทดลองต่าง ๆ เพื่อหาสมมติฐาน ข้อพิสูจน์ประเด็นที่สงสัย การนำ VR มาใช้จะช่วยให้ผู้เรียนสัมผัสขั้นตอนการทดลองต่าง ๆ ได้จริง ๆ ช่วยเสริมให้กระบวนการคิด วิเคราะห์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประโยชน์ของ E-learning และการปรับใช้ให้เข้ากับการเรียนการสอนรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเป็นตัวช่วยให้การเรียนการสอนก้าวหน้า ได้ประโยชน์ทั้งผู้สอนและผู้เรียนไม่ใช่แค่เฉพาะนักเรียน นักศึกษาเท่านั้น แต่รวมไปถึงคนวัยทำงานด้วย นอกจากนี้ในอนาคตการเรียนผ่านระบบออนไลน์ หรือ E-learning ยังคงมีแนวโน้มว่าจะได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง และมีความเป็นไปได้ว่าจะเกิดการพัฒนาต่อยอดให้น่าสนใจมากขึ้น
ทิศทางของการเรียนผ่านระบบออนไลน์ในอนาคต
หลายคนคงจะทราบกันแล้วว่าการเรียนออนไลน์ และ E-learning ได้ถูกนำไปใช้กันอย่างแพร่หลายในช่วงที่ผ่านมา ช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนได้สะดวกมากขึ้น จึงอาจคาดการณ์อนาคตของการเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ว่าจะสามารถเติบโตต่อไปได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม ทุกการเติบโตย่อมมาพร้อมกับความท้าทายมากขึ้นตามบริบทของสังคมโลกที่เปลี่ยนไป อีกทั้งมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอด จึงอาจกล่าวได้ว่า อาจมีการนำ AI หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ เข้ามาปรับใช้ควบคู่ไปกับการเรียนการสอนรูปแบบเดิมเพื่อดึงดูดความสนใจ ร่วมกับหลักสูตรที่เป็นสากล สามารถเข้าถึงได้ง่ายและสอดคล้องกับคนทุกกลุ่มตั้งแต่วัยเรียน รวมไปถึงวัยทำงานที่ต้องการ Reskill หรือ Upskill เพิ่มทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในโลกอนาคต
นอกจากนี้ การสร้างระบบที่เสถียร สัญญาณอินเทอร์เน็ตครอบคลุมทุกพื้นที่ก็เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้การเรียนออนไลน์ยุคใหม่เติบโตไปได้อย่างแข็งแกร่ง ด้วยตัวช่วยดี ๆ จาก NT ที่จะช่วยยกระดับการเรียนออนไลน์ให้ตอบสนองต่อผู้เรียนสามารถเข้าถึงสื่อการเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา ส่วนผู้สอนก็ได้มีเวลาเตรียมการสอน ไม่มีข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ พร้อมทั้งสามารถออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจเกี่ยวกับ Solutions จาก NT เพิ่มเติมสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.nt-metro-service.com