โลกยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงการดำเนินชีวิตหลายประการ การทำงานที่บ้านโดยไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานการใช้โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียวสามารถทำได้หลายอย่าง หนึ่งในนั้นคือ Live Streaming หรือการแพร่ภาพสด (Real Time) ผ่านกล้องวิดีโอ โทรศัพท์มือถือ หรือเครื่องคอมพิวเตอร์
คนส่วนใหญ่เข้าใจว่าการ Live Streaming มีแต่เฉพาะการเล่นเกมเท่านั้น นั่นอาจเป็นความจริงช่วงแรก ๆ ที่เป็นการไลฟ์สดเล่นเกมเพื่อความสนุกแต่ทุกวันนี้ Live Streaming กลับกลายเป็นหนึ่งในเทคนิคการตลาดออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะผู้ขายสามารถโต้ตอบกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้ Livestream สามารถทำได้บนแพลตฟอร์ม e-Commerce ของตนเองโดยตรง หรือใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียกระแสหลัก อาทิ YouTube Facebook หรือ Instagram ก็ได้เมื่อการ Live Streaming สามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้ไม่ต่างจากการขายหน้าร้านคนรุ่นใหม่จึงเริ่มสนใจอยากเป็น Streamer หรือคนทำหน้าที่ Live นั่นเอง
จุดเด่นของ Live Streaming
กระแสที่มาแรงแบบก้าวกระโดดของ Live Streaming ทำให้นักการตลาดส่วนใหญ่ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารแคมเปญโฆษณา ช่วยในการขาย เพราะสามารถสร้างการตอบโต้ระหว่างผู้ขายหรือแบรนด์ กับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ทั้งยังเป็นการสร้างโอกาสในการร่วมงานกับสตรีมเมอร์มืออาชีพอีกด้วย
Live Streaming มาแรงด้วยเหตุผลหลายประการ อาทิ
- ทำได้ทุกที่: การ Live Streaming ทำได้ทุกที่ ขอแค่มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์ที่มีคุณภาพเช่น คอมพิวเตอร์ กล้อง ไมโครโฟน โทรศัพท์ สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรงและเสถียร
- สามารถตอบโต้กับกลุ่มเป้าหมายได้ทันที: การ Live Streaming จะทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถทราบได้ทันทีว่ากลุ่มเป้าหมายมี Engagement กับแบรนด์ของตนมากแค่ไหน ในกรณีที่ต้องการเพิ่มยอดขาย การ Live จะตอบโจทย์ได้ดี เพราะแบรนด์สามารถมอบส่วนลด นำเสนอสิทธิพิเศษ หรือโปรโมชั่นต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
- สร้างความรู้สึกสบายใจและไว้วางใจ: อีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการซื้อใจผู้บริโภคคือ การแสดงความจริงใจ ด้วยการเปิดเผยเบื้องหลังการทำงาน ขั้นตอนการผลิตสินค้า แนะนำทีมงาน พาชมสำนักงาน ซึ่งจะทำให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น เป็นการสร้างความไว้วางใจ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์
- เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เป็นจำนวนมาก: การ Live Streaming แต่ละครั้งจะทำให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเป็นจำนวนมาก โดยไม่จำกัดว่าต้องเป็นลูกค้าของแบรนด์อย่างเดียว เมื่อการ Live น่าสนใจ ก็จะเกิดการบอกปากต่อปาก นอกจากนี้ การ Live Streaming ยังเสียค่าใช้จ่ายน้อยหรือบางเวลาอาจจะไม่เสียเลยก็ได้
- ความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง: เพราะทุกวันนี้คนใช้เวลาในการออนไลน์มากขึ้น การรับชมแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนอยู่ร่วมในเหตุการณ์ Live Streaming สามารถนำเสนอคอนเทนต์แบบไม่มีข้อจำกัดเมื่อเทียบกับการใช้สื่อช่องทางอื่น ผู้ชมเข้าถึงอย่างกว้างขวางและเข้าชมได้พร้อมกันไม่ว่าจะอยู่มุมไหนในโลก จึงทำให้ Live Streaming เป็นสื่อที่มีแนวโน้มเพิ่มการซื้อขายผ่านออนไลน์มากขึ้น
เตรียมความพร้อมเพื่อเป็นสตรีมเมอร์
ไม่ว่าจะถนัดเรื่องใดก็สามารถเป็นสตรีมเมอร์ได้ เกม ดนตรี อาหาร ออกกำลังกาย เหล่านี้เป็นสิ่งที่อยู่ในความสนใจของคนรุ่นใหม่ สตรีมเมอร์ที่มีประสบการณ์จะสามารถตรึงผู้ชมให้อยู่รับชมตลอดจนจบการ หรือตรึงผู้ชมให้อยู่กับแบรนด์ได้นานด้วยความเต็มใจ เพราะการ Live Streaming เป็นช่องทางที่คนรุ่นใหม่นิยม ผู้ที่ต้องการเป็นสตรีมเมอร์จึงต้องเท่าทันกระแสความเป็นไปในโลก ถ้าเป็นสตรีมเมอร์ด้านเกม ก็ต้องรู้ว่าเกมอะไรที่อยู่ในความนิยม หรือเกมที่จะเข้ามาใหม่
ประการสำคัญ อุปกรณ์ต้องพร้อม
- ความพร้อมของอุปกรณ์ การ live streaming ต้องการอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ คือ ไมโครโฟน กล้องคุณภาพระบบ HD การ์ดจับภาพ จอคอมพิวเตอร์อย่างน้อย 2 จอ คือจอหลักในการ streaming และจอที่ผู้ชมไลฟ์สดจะมองเห็น
- มีแพลตฟอร์มรองรับการ stream ส่วนใหญ่จะใช้แพลตฟอร์ม Twitch หรือ Bigo Live
- เป็นเอนเทอร์เทนเนอร์ที่มีเสน่ห์ การเป็นสตรีมเมอร์ แม้จะเปิดกว้างเรื่องความถนัด แต่สตรีมเมอร์ที่ประสบความสำเร็จก็ควรจะเป็น entertainer ที่มีเสน่ห์ ทั้งการพูดจา การนำเสนอประเด็นที่กระชับ และมีอารมณ์ขัน
สร้างรายได้จากการ Livestream
สตรีมเมอร์ที่ได้ชื่อว่าโด่งดังที่สุดของโลกอย่าง “Ninja” หรือ Richard Tyler Blevins) ทำรายได้มากกว่า 5 แสนเหรียญสหรัฐฯ ต่อเดือน หรือราว 15 ล้านบาท จากการสตรีมบน Twitch นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากการเป็นพาร์ทเนอร์กับแบรนด์สินค้าชื่อดัง อาทิ Samsung , Adidas , Redbull ฯลฯ ไม่รวมถึงช่วงปลายปีที่ Mixer แพลตฟอร์มสตรีมของ Microsoft ดึงตัวนินจาไปสตรีมแบบ exclusive เป็นต้น ปัจจุบัน Ninja มีผู้ติดตามราว 16.5 ล้าน คน ประมาณกันว่าเขาน่าจะทำรายได้มากกว่า 300 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกว่าจะมาถึงจุดนี้ เขาใช้เวลาสั่งสมประสบการณ์นานนับสิบปี
แม้ยังไม่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่สตรีมเมอร์ที่ฝึกฝนจนมีฝีมือ ก็สามารถสร้างรายได้จากแหล่งเหล่านี้
- การบริจาค (Donation) เงินบริจาคมาจากแฟนคลับที่ถูกใจการ Live Streaming คล้ายกับการสนับสนุนศิลปินที่ตนชื่นชอบ
- ค่าโฆษณาและค่าสมาชิก (Subscriptions) สตรีมเมอร์จะต้องเป็นพาร์ทเนอร์กับแพลตฟอร์มที่ใช้ในการ Live โดยการสมัครเข้าไป จากนั้นทางแพลตฟอร์มจะพิจารณาเลือกตามเงื่อนไขต่าง ๆ เช่น ต้อง Live Streaming มาแล้วไม่น้อยกว่า 25 ชั่วโมง มีคนดูเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 100 คน (ในแต่ละ live) ภายในหนึ่งเดือนต้อง live streaming มาแล้วไม่น้อยกว่า 12 ครั้ง เป็นต้น ถ้าผ่านตามเงื่อนไขเหล่านี้ สตรีมเมอร์จะได้ส่วนแบ่งจากค่าสมาชิก เช่น ค่าสมาชิก 5 เหรียญสหรัฐฯ สตรีมเมอร์ก็จะได้ค่าส่วนแบ่งครึ่งหนึ่ง คือ 2.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อสมาชิก 1 คน
- ผู้สนับสนุน (Sponsor) ขั้นตอนนี้จะไม่เกิดขึ้นเลย ถ้าสตรีมเมอร์ยังไม่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นไปตามกลไกตลาด คือเมื่อมีชื่อเสียง ก็มีสินค้าต่าง ๆ เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ รวมถึงการซื้อตัวข้ามแพลตฟอร์ม
NT Solution มีแพ็คเกจที่เหมาะกับธุรกิจที่หลากหลาย รวมถึงการ Live Streaming ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ผู้ใช้บริการสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายได้สะดวกด้วยแพคเก็จเหมาจ่ายอินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์ สามารถเลือกช่วงเวลาการเพิ่ม speed auto ให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจได้ทั้งกลางวันหรือกลางคืน
Live Streaming ทำให้ผู้ประกอบการสามารถติดต่อกับลูกค้าได้แบบเรียลไทม์ และสามารถปิดการขายได้ค่อนข้างรวดเร็ว อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการ Live Streaming ก็แทบไม่มี ที่ต้องเตรียมพร้อมก็คืออุปกรณ์ และสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่แรงและมีความเสถียร เป็นช่องทางการทำตลาดออนไลน์ที่ลงทุนไม่สูงนักแต่ช่วยเพิ่มยอดขายได้ยิ่งกว่าคุ้ม
หากสนใจสามารถสอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่ Contact Center เบอร์ 1888
หรือติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ www.nt-metro-service.com/contact-us
