คงไม่มีใครปฏิเสธว่าอินเทอร์เน็ตได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเราไปแล้ว แต่หลายคนคงเคยเจอปัญหาการใช้งานอินเทอร์เน็ตที่ไม่ราบรื่น ไม่ว่าจะเป็นการดูวิดีโอค้าง การเล่นเกมแล้วกระตุก หรือการดาวน์โหลดไฟล์ที่ใช้เวลานาน ปัญหาเหล่านี้มักเกิดจาก Bandwidth ที่ไม่เพียงพอ แล้ว Bandwidth คืออะไร? มีผลต่อประสบการณ์การใช้งานอินเทอร์เน็ตของเราอย่างไร มารู้วิธีแก้ไขปัญหาที่เกิดจากแบนด์วิดท์ไม่เพียงพอ เพื่อให้คุณเพลิดเพลินกับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มที่ในบทความนี้กัน
Highlight
- Bandwidth คือ ปริมาณข้อมูลสูงสุดที่สามารถส่งผ่านเครือข่ายได้ในหนึ่งหน่วยเวลา มักวัดเป็นบิตต่อวินาที (bps) เช่น 10 Mbps, 100 Mbps หรือ 1 Gbps
- ยิ่งแบนด์วิดท์สูง ก็ยิ่งดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ ๆ หรือรับส่งข้อมูลไปมาได้เร็วขึ้น
- การเลือก Bandwidth ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง อาทิ จำนวนผู้ใช้งาน หรือประเภทของการใช้งาน
Bandwidth คืออะไร มาทำความเข้าใจกัน
Bandwidth คือ ตัวกำหนดความเร็วในการรับส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ยิ่งมีค่าสูง ก็ยิ่งใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เร็วและลื่นไหลมากขึ้น เพื่อให้คุณเห็นภาพมากขึ้น Bandwidth เปรียบเสมือนท่อที่ใช้ส่งข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ยิ่งท่อกว้างเท่าไร ก็ยิ่งส่งข้อมูลได้มากและเร็วขึ้นเท่านั้น ซึ่งความกว้างของท่อนี้เองที่เราเรียกว่า Bandwidth เรียกง่าย ๆ ก็คือความเร็วสูงสุดในการรับส่งข้อมูลนั่นเอง ยิ่งค่า Bandwidth สูงเท่าไร ความเร็วในการดาวน์โหลด อัปโหลด หรือสตรีมมิงก็จะยิ่งเร็วขึ้นตามไปด้วย
Bandwidth สำคัญอย่างไร?
Bandwidth หรือแบนด์วิดท์ คืออะไร? ทุกคนคงทราบกันดีแล้ว นอกจากนี้ Bandwidth ยังมีความสำคัญต่อการใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างมาก ทำให้เราสามารถดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ ดูวิดีโอความละเอียดสูง หรือเล่นเกมออนไลน์ได้อย่างลื่นไหล ไม่สะดุด อีกทั้งในมุมของคนทำเว็บไซต์ Bandwidth ยังส่งผลต่อประสิทธิภาพของเว็บไซต์ด้วย เว็บไซต์ที่มี Bandwidth เพียงพอ จะโหลดหน้าเว็บได้เร็ว (Pagespeed) ทำให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี ไม่ต้องรอการโหลดเว็บนาน
Bandwidth มีหลักการทำงานอย่างไร?
ขออธิบายหลักการทำงานเบื้องหลัง Bandwidth ง่าย ๆ ให้ทุกคนเข้าใจกัน Bandwidth ทำงานโดยการแปลงข้อมูลดิจิทัลให้เป็นสัญญาณไฟฟ้า แล้วส่งผ่านไปตามสายเคเบิลหรือคลื่นวิทยุในรูปแบบของคลื่นความถี่ โดย Bandwidth ก็คือความกว้างของคลื่นความถี่นี้เอง ยิ่งความกว้างมากขึ้น ก็สามารถส่งข้อมูลได้มากขึ้นและเร็วขึ้นตามไปด้วย ซึ่งวัดหน่วยเป็น Mbps (Megabits per second) ที่แสดงถึงปริมาณข้อมูลที่ส่งผ่านได้ต่อวินาที อย่างไรก็ตาม ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ระยะทางจากเซิร์ฟเวอร์ คุณภาพของสายเคเบิล และปริมาณการใช้งานของผู้ใช้รายอื่น ก็มีส่วนสำคัญในการกำหนดความเร็วในการส่งข้อมูลด้วย
หน่วยของ Bandwidth?
หน่วยของ Bandwidth ที่นิยมใช้กันทั่วไปคือ Mbps หรือ Megabits per second ซึ่งหมายถึงจำนวนข้อมูลที่สามารถส่งผ่านได้ต่อวินาที นอกจาก Mbps แล้ว ยังมีหน่วยอื่น ๆ ที่ใช้วัด Bandwidth ได้อีก อาทิ
- Kbps (Kilobits per second) ใช้สำหรับความเร็วต่ำ อย่างอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์บ้านในอดีต
- Gbps (Gigabits per second) ใช้สำหรับความเร็วสูงมาก เช่น อินเทอร์เน็ตไฟเบอร์ออปติกความเร็วสูง
Bandwidth, Speed, Throughput และ Latency มีความแตกต่างกันอย่างไร?
Bandwidth, Speed, Throughput และ Latency คำศัพท์เหล่านี้มักถูกนำมาใช้สลับกัน แต่จริง ๆ แล้วมีความหมายที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยแต่ละคำจะบ่งบอกถึงลักษณะที่แตกต่างกันของการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต มาดูกันว่าแต่ละคำนั้นหมายถึงอะไร
Bandwidth vs Speed
Bandwidth เปรียบเสมือนกับความกว้างของถนนที่รถสามารถวิ่งได้ ส่วน Speed หรือความเร็ว คือความเร็วที่รถวิ่งบนถนนนั้น หากถนนกว้าง หรือมี Bandwidth สูง ก็สามารถให้รถจำนวนมากวิ่งผ่านได้พร้อมกัน รถก็วิ่งได้รวดเร็ว แต่ถ้าถนนแคบ หรือมี Bandwidth ต่ำ จะมีเพียงไม่กี่คันที่วิ่งได้พร้อมกัน รถก็อาจติดขัดทำให้ความเร็วในการเดินทางลดลง
Bandwidth vs Latency
Bandwidth คือ ความสามารถในการรองรับรถหลายคันบนถนนในเวลาเดียวกัน ในขณะที่ Latency คือเวลาแฝง เวลาที่ใช้ในการเดินทางไปกลับอย่างจากจุด A ไปยังจุด B และส่งสัญญาณตอบกลับจาก B ไปยัง A สมมติว่ามีการส่งเอกสารจาก A ไป B โดยที่ B ต้องส่งเอกสารตอบกลับ การส่งเอกสารไปกลับเปรียบได้กับ Latency
Bandwidth vs Throughput
Throughput คือ จำนวนรถที่วิ่งผ่านถนนนั้นสำเร็จในช่วงเวลาหนึ่ง ลองนึกถึงการที่รถจำนวนมากพยายามวิ่งไปในเวลาเดียวกัน หากถนนมีขนาดใหญ่พอที่จะรองรับรถทั้งหมดได้ รถก็จะวิ่งผ่านได้อย่างราบรื่น แต่ถ้าถนนแคบหรือมีอุปสรรค รถก็จะติดขัด การเดินทางสำเร็จได้ช้าลง ตัวอย่างเช่น ถนน 6 เลน (Bandwidth สูง) จะสามารถให้รถวิ่งผ่านได้มากขึ้น แต่ถ้ามีการจราจรติดขัดหรือเกิดอุบัติเหตุ (อุปสรรคต่าง ๆ ในเครือข่าย) รถจะไม่สามารถวิ่งผ่านได้เต็มที่ ส่งผลให้ปริมาณรถที่ผ่านถนนในช่วงเวลาหนึ่ง (Throughput) ลดลง แม้ว่าถนนจะมีขนาดใหญ่
บทความอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ: ทำความรู้จัก VPN คือ
วิธีเลือก Bandwidth ให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือก Bandwidth ที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยหลัก ๆ คือ
- ประเมินจำนวนผู้ใช้ ยิ่งมีผู้ใช้มาก แบนด์วิดท์ต้องมากขึ้น
- วิเคราะห์ประเภทของการใช้งาน หากใช้งานหนักแบนด์วิดท์ต้องสูง
- ตรวจสอบจำนวนอุปกรณ์เชื่อมต่อ ถ้ามีอุปกรณ์มากต้องใช้แบนด์วิดท์มาก
- พิจารณาความเร็วอัปโหลด: หากต้องอัปโหลดข้อมูลบ่อย ๆ ควรเลือกแบนด์วิดท์ที่มีความเร็วในการอัปโหลดสูง
- พิจารณาข้อเสนอจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เลือกแบนด์วิดท์ที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงและมีบริการที่คุณต้องการ
- เตรียมเผื่ออนาคต เลือกแบนด์วิดท์ที่รองรับการขยายตัวในอนาคต เช่น การใช้งาน IoT หรืออุปกรณ์ที่เพิ่มขึ้น
สาระอื่น ๆ ที่คุณอาจสนใจ: IOT คืออะไร?
Bandwidth ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าทั้งจำนวนผู้ใช้งาน หรือขนาดและประเภทของธุรกิจ จะช่วยให้คุณสามารถเลือกแบนด์วิดท์ที่เหมาะสม ซึ่งจะทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างเต็มที่และลดปัญหาการหยุดชะงักในการใช้งานเครือข่ายอินเทอร์เน็ตได้
การมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตที่เสถียร รวดเร็ว และปลอดภัย จึงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโต Leased Line Internet จาก NT เป็นตัวช่วยในการเชื่อมต่อธุรกิจของคุณอย่างไร้ขีดจำกัด มั่นใจได้ว่าการเชื่อมต่อจะเป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา
- Facebook : NT shop กรุงเทพและปริมณฑล
- Line@ : @NTSMESolutionBKK
- Tel: 02-575-5151
References
Verizon. (2023, February 21). Bandwidth. https://www.verizon.com/articles/internet-essentials/bandwidth-definition
Andrew Froehlich. (2021, May). bandwidth (network bandwidth). https://www.techtarget.com/searchnetworking/definition/bandwidth