ทุกวันนี้ ผู้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตประจำวันอยู่กับ Social Media หรือ สื่อสังคมออนไลน์ ไม่มากก็น้อย เพราะ Social Media ได้แทรกซึมเข้ามาในชีวิตของผู้คนและถูกใช้ด้วยความเคยชิน การใช้ Social Media สามารถใช้ได้ทั้งการแบ่งปันเรื่องส่วนตัว หรือใช้ในการทำงานเพื่อเป็นช่องทางในการสื่อสารไปยังลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ซึ่งก็สามารถสื่อสารได้ในหลาย ๆ ช่องทางแล้วแต่กลยุทธ์ด้านการตลาดของสินค้า ซึ่งการใช้ Social Media เพื่อทำการตลาดให้กับสินค้าหรือบริการถูกพบเห็นกันมานานแล้ว แต่ในช่วงที่โรคระบาดอย่างโควิด 19 เข้ามาอยู่ในชีวิตของผู้คนอย่างเต็มตัว Social Media ก็ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือด้านการตลาดหรือที่เรียกว่า Social Media Marketing เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้อย่างชัดเจน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการ เพิ่มยอดขายและผลกำไร เพิ่มมูลค่าทางการตลาดให้แบรนด์ สร้างการรับรู้แบรนด์ รวมทั้งเป็นช่องทางในการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าทั้งรายเก่าและรายใหม่ ทั้งนี้ การใช้ Social Media จำเป็นต้องมีการวางกลยุทธ์ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและตรงจุดไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อหา (Content) ที่สร้างสรรค์ การใช้แพลตฟอร์มที่สอดคล้องกับกลุ่มเป้าหมาย หรือการใช้ผู้ที่มีอิทธิพลทางความคิดต่อกลุ่มเป้าหมายที่เรียกว่า Influencer เข้ามาช่วยกระตุ้นเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ตามที่ตั้งเป้าไว้ เป็นต้น [2]
แพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยม
จากการสำรวจในปี 2022 จาก We are social ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านการบริหารจัดการสื่อสังคมออนไลน์ที่เปิดเผยข้อมูลและพฤติกรรมใช้งานสื่อดิจิทัลของคนทั่วโลก ได้เปิดเผยว่า ในภาพรวมของ Social Media ทั่วโลก ผลจากการสำรวจพบว่า Facebook ยังมีผู้นิยมใช้งานมาเป็นอันดับหนึ่งอยู่ คือ 3,000 ล้านคน รองลงมาคือ YouTube และ WhatsApp กับ Instagram และอันดับ 5 คือ WeChat แต่ที่น่าสนใจคือ TikTok ที่กำลังเป็นที่นิยมขณะนี้ก็มีผู้ใช้ทั่วโลกเกิน 1,000 ล้านคนแล้ว ซึ่งทั้ง WeChat และ TikTok ต่างก็เป็นแพลตฟอร์มของประเทศจีนที่กำลังขยายฐานผู้ใช้ไปยังทั่วโลก รวมทั้งคนไทยโดยเฉลี่ยแล้วจะใช้ Social Media จำนวน 7.6 แพลตฟอร์ม
คนไทยมีการใช้ Social Media ถึง 81.2% มีเวลาในการใช้เฉลี่ย 2.59 ชั่วโมงต่อวัน โดยมีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่ออัปเดตชีวิตประจำวันกับเพื่อนและคนในครอบครัว 47.6% ฆ่าเวลาว่าง 36.6% และอัปเดตข่าวสารต่างๆ อีก 35.1% มากไปกว่านั้นจากผลการสำรวจพบว่า คนไทยกว่า 47.5% หาข้อมูลของสินค้าหรือบริการที่สนใจผ่าน Social Media และเป็นเพศหญิงมากกว่าเพศชาย แต่คนไทยจะใช้ Social Media เพื่อทำงานแค่ 16% เท่านั้น [3]
จากสถิติดังกล่าว เป็นภาพรวมของการใช้ Social Media ของคนทั่วโลกและคนไทย และเพื่อเป็นข้อมูลในการศึกษาพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัล บทความนี้ขอเสนอข้อมูลเชิงลึก หรือที่เรียกว่า Insight ของคนไทยที่ใช้ Social Media ในแต่ละแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ดังนี้ [4]
1. Facebook
การเข้าถึง Facebook Ads ของคนไทยอยู่ที่อันดับที่ 18 ของโลก คือ 82.8% ดังนั้น การทำโฆษณาบน Facebook ก็ยังถือว่าเป็นช่องทางที่ดีที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากเมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่อยู่แค่ 34.1% อย่างไรก็ตาม เมื่อดูที่ Facebook Engagement ของไทยจะอยู่แค่ 0.07% เท่านั้น โดย Engagement ที่ดีที่สุดคือ การโพสต์ข้อความทั่วไป 0.13% รองลงมาคือ การโพสต์รูปภาพ 0.11% และวิดีโอ 0.08% นอกจากนี้แล้ว Facebook ยังมีการสร้างฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่าง Facebook Market Place เพื่อให้ Facebook ยังเป็นแพลตฟอร์มที่น่าสนใจอยู่สำหรับคนทั่วไป
2. Instagram
คนไทยเข้าถึง Instagram Ads ได้ถึง 18.5 ล้านคน ซึ่งสูงเป็นอันดับ 7 ของโลก โพสต์คอนเทนต์ที่มี Engagement มากที่สุดตามลำดับคือ โพสต์ Carousel 3.15% โพสต์วิดีโอ 1.50% โพสต์รูปภาพ 1.18% โดยพบว่า พฤติกรรมการเข้าดู Instagram Story ของคนทั่วโลก เข้าถึงได้กว่า 1.07 พันล้านคน คิดเป็น 72.6% Instagram Reels เข้าถึงได้ 45.7% Instagram Shop เข้าถึงได้ 57.8% และ Instagram Explore Tab เข้าถึงได้ 53.6%
3. Twitter
Twitter เข้าถึงคนไทยได้มากถึง 11.45 ล้านคน คิดเป็นอันดับที่ 10 ของโลก หรือร้อยละ 19 ของอัตราเฉลี่ยรวมของโลก
4. TikTok
TikTok Ads สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานทั่วโลกได้กว่า 884.9 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นประชากรรุ่นใหม่โดยเฉพาะ Generation Z ที่เป็นผู้หญิง สำหรับคนไทย การเข้าถึง TikTok Ads มาเป็นอันดับ 7 ของโลก ซึ่งมีจำนวนถึง 35.8 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 63.6 ของประชากรทั้งประเทศ นับเป็นแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมอันดับต้นๆ ของคนไทย
5. YouTube
การเข้าถึง YouTube Ads ของคนไทยคิดเป็นร้อยละ 63.3 ซึ่งสูงเป็นอันดับ 18 ของโลก โดย YouTube Channels ที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในโลกสามอันดับแรกคือ T-Series ช่องภาพยนตร์อินเดีย ยอดติดตามอยู่ที่ 203 ล้านคน รองลงมาคือ Cocomelon-Nursery Rhymes ยอดติดตาม 126 ล้านคน และอันดับที่สามคือ Set India ที่มียอดติดตาม 123 ล้าน ส่วนคลิปวิดีโอที่มียอดวิวสูงสุดคือ Baby Shark Dance ยอดวิวรวม 10,020 ล้านวิว รองลงมาคือ Despacito 7,704 ล้านวิว และ Johny Johny Yes Papa ยอดวิวรวม 6,104 ล้านวิว
จากภาพรวมแพลตฟอร์ม Social Media ยอดนิยม รวมกับ Insight ของผู้บริโภคในการใช้
แพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ ทั้งของคนทั่วโลกและคนไทย สามารถนำมาเป็นข้อมูลในการวิเคราะห์เพื่อสร้างกลยุทธ์ด้านการตลาด ในการนำ Social Media มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในด้านของการทำโฆษณาเพื่อเพิ่มยอดขายและผลกำไร สร้างการรับรู้ หรือสร้างมูลค่าแบรนด์ แต่สิ่งที่สำคัญที่นักการตลาดไม่ควรลืมหรือละเลย คือ ขนาดของภาพที่ใช้ในการทำเนื้อหา หรือขนาดของวิดีโอ ที่จะเผยแพร่ผ่านช่องทาง Social Media เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นปราการด่านแรกที่ดึงดูดผู้คนให้หันมาสนใจเนื้อหา หรือ Content ที่นักการตลาดอยากจะนำเสนอ ดังนั้น แต่ละแพลตฟอร์ม Social Media จึงต้องมีการกำหนดขนาดของภาพเพื่อให้เหมาะกับแพลตฟอร์มของตัวเอง โดยบทความนี้จะขออัปเดตขนาดภาพสำหรับ Social Media ปี 2023 ดังนี้
ขนาดภาพอัปเดตสำหรับ Social Media 2023 [5]
1. Facebook
1.1 Facebook Profile Picture
– ขนาดภาพขั้นต่ำ: 180 x 180 พิกเซล
– Desktop: 170 x 170 พิกเซล
– Smart Phone: 128 x 128 พิกเซล
– Feature Phone: 36 x 36 พิกเซล
– Thumbnail: 32 x 32 พิกเซล
1.2 Cover Photo
– ขนาดภาพขั้นต่ำ: 400 x 150 พิกเซล แต่ขนาดที่น้อยกว่า 820 x 312 พิกเซล ภาพจะยืดออก
– Desktop: 820 x 312 พิกเซล
– Smart Phone: 640 x 360 พิกเซล
– Feature Phone: ไม่มีการแสดงผล
1.3 Shared Facebook Link
– ขนาดอัปโหลดที่แนะนำคือ 1,200 x 628 พิกเซล
– รูปภาพสี่เหลี่ยม: ขั้นต่ำ 154 x 154 พิกเซล
– รูปภาพสี่เหลี่ยมจตุรัส: ขั้นต่ำ 116 x 116 พิกเซล
– รูปภาพสี่เหลี่ยมผืนผ้า: ขั้นต่ำ 470 x 246 พิกเซล
1.4 Shared Facebook Image
– ขนาดอัปโหลดที่แนะนำคือ 1,200 x 630 พิกเซล จะปรากฏในฟีดที่ความกว้างสูงสุด 470 พิกเซล (และปรับขนาดได้สูงสุด 1:1) และจะปรากฏบนหน้าที่ความกว้างสูงสุด 504 พิกเซล (และปรับขนาดได้สูงสุด 1:1)
2. Instagram
2.1 Instagram Profile Picture
– ขนาดอัปโหลดที่แนะนำ: 110 x 110 พิกเซล เป็นภาพถ่ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังนั้น จึงควรอัปโหลดภาพที่มีอัตราส่วนกว้างยาว 1:1
2.2 Instagram Photo Thumbnail
– ขนาดภาพขนาดย่อ: 161 x 161 พิกเซล เป็นภาพถ่ายสี่เหลี่ยมจัตุรัส ดังนั้นควรรักษาอัตราส่วนภาพไว้ที่ 1:1
2.3 Instagram Photo
– ขนาดอัปโหลดสูงสุด: 1080 x 1080 พิกเซล (แนวนอน) และ 1080 x 1350 พิกเซล (แนวตั้ง)
2.4 Instagram Story
– ความละเอียดที่แนะนำ: 1080 x 1920 พิกเซล
– ความละเอียดขั้นต่ำ: 600 x 1067 พิกเซล
– อัตราส่วนภาพ: 9:16
– ขนาดไฟล์สูงสุด: 4 GB
3. Twitter
3.1 Twitter Profile Picture
– ขนาดอัปโหลดที่แนะนำ: 400 x 400 พิกเซล
– จอแสดงผล: 200 x 200
– ขนาดไฟล์สูงสุด: 2MB
– ประเภทรูปภาพที่อนุญาต: JPG, GIF หรือ PNG
3.2 Twitter Header Photo
– ขนาดอัปโหลดที่แนะนำ: 1,500 x 500 พิกเซล
– ขนาดไฟล์สูงสุด: 5MB
– ประเภทรูปภาพที่อนุญาต: JPG, GIF หรือ PNG
3.3 Twitter In-Stream Photos
– ขั้นต่ำที่จะปรากฏเมื่อขยาย: 440 x 220 พิกเซล (อัตราส่วน 2:1)
– สามารถทวีตได้สูงสุด 4 ภาพในคราวเดียว
– แก้ไขภาพได้หากทวีตจากแอพ Twitter iOS หรือ Android
– สูงสุดที่จะแสดงแบบขยาย: 1024 x 512 พิกเซล
– ปรากฏในสตรีมขนาด: 506 x 253 พิกเซลบนเดสก์ท็อป
– ขนาดไฟล์สูงสุด 5 MB สำหรับภาพถ่าย และ 5 MB สำหรับ GIF แบบเคลื่อนไหวบนมือถือ และ 15 MB บนเว็บ
4. YouTube
4.1 Your Channel Profile Image
– ขนาดภาพโปรไฟล์ของช่อง: 800 x 800
– แสดงเป็น 98 x 98 พิกเซล
– ประเภทรูปภาพ: JPG, GIF, BMP หรือ PNG
4.2 YouTube Channel Cover Photo Size
– ขนาดภาพที่แนะนำ: 2560 x 1440 พิกเซล
– อุปกรณ์พกพาและเว็บไซต์: 1546 x 423 พิกเซล (ไม่รวมการครอบตัดข้อความและโลโก้)
– ขนาดไฟล์สูงสุด: 4MB
– ประเภทรูปภาพ: JPG, GIF, BMP หรือ PNG
4.3 YouTube Channel Photo Sizes ของอุปกรณ์ต่าง ๆ
– Tablet: 1,855 x 423 พิกเซล
– Smart Phone: 1,546 x 423 พิกเซล
– TV Screen : 2,560 x 1,440 พิกเซล
– Desktop: 2,560 x 423 พิกเซล
5. TikTok
– อัตราส่วน: 9:16
– ขนาดภาพ: 1080 x 1920 พิกเซล
– รองรับไฟล์: MP4 และ WEBM
– ความยาววิดีโอ: 10 นาที
ด้วยความนิยมของการใช้ Social Media ที่แพร่หลายในปัจจุบัน ทำให้หลายองค์กรต้องหาข้อมูลที่ทันต่อการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ เทคโนโลยีด้านการสื่อสารและโทรคมนาคมก็เป็นอีกกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้ยุคดิจิทัลเดินไปได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ NT รัฐวิสาหกิจที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสื่อสารโทรคมนาคมและครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย พร้อมเสมอสำหรับการบริการให้องค์กรหรือหน่วยงานได้ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยภายใต้การดูแลของทีมผู้เชี่ยวชาญที่ทำงานด้านนี้มากว่า 65 ปี สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามบริการเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ ผ่านทาง Facebook: NT shop กรุงเทพและปริมณฑล สามารถติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ https://nt-metro-service.com หรือ Line@ : @ntsmesolutionbkk
แหล่งอ้างอิง
[1] https://www.marketingoops.com/media-ads/social-media/what-is-social-media/
[2] https://digimusketeers.co.th/blogs/online-marketing/what-is-social-media
[3] https://www.everydaymarketing.co/trend-insight/social-media-insight-and-digital-stat-thai-2022-from-we-are-social/
[4] https://digimusketeers.co.th/blogs/online-marketing/social-media-2022
[5] https://influencermarketinghub.com/social-media-image-sizes-guide/#toc-1