การทำธุรกิจในปัจจุบันมีความแตกต่างกับในอดีตเป็นอย่างมาก เปลี่ยนจากยุคแอนะล็อกไปสู่ยุคดิจิทัล และต่อยอดมาเป็นการนำระบบอินเทอร์เน็ตเข้ามาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ธุรกิจต้องมีการปรับตัว คิดหาโมเดลธุรกิจที่สอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการนำข้อมูลจากผู้บริโภคมาวิเคราะห์เพื่อปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด มีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการบริการผู้บริโภค ดังคำกล่าวตามทฤษฎีวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตของชาร์ลส์ ดาร์วิน ที่ว่า “ผู้ที่จะอยู่รอดได้ไม่ใช่ผู้ที่ฉลาดที่สุด แต่เป็นผู้ที่มีความพร้อมในการปรับตัวมากที่สุด” [1]
ในเมื่อทุกอย่างเปลี่ยนแพลตฟอร์มมาอยู่บนอินเทอร์เน็ต การมีอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพก็เท่ากับว่าเป็นการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงโลกที่กว้างใหญ่มากขึ้น โอกาสขยายตัวของธุรกิจก็เพิ่มตามขึ้นไปด้วย โดยระบบอินเทอร์เน็ตที่ดีนั้น ไม่ใช่ว่าแค่ความเร็วอย่างเดียวที่จะสามารถการันตีคุณภาพโดยรวมได้ แต่อินเทอร์เน็ตที่ดีนั้นต้องมีทั้งความเสถียรและสร้างความปลอดภัยให้กับข้อมูลของบริษัทหรือองค์กรอีกด้วย ดังนั้น ผู้ประกอบการจึงควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ Corporate internet กับอินเทอร์เน็ตทั่วไป ในแง่ของประสิทธิภาพของระบบการทำงาน ค่าใช้จ่าย และความคุ้มค่า เพื่อเลือกอินเทอร์เน็ตให้เหมาะสมกับธุรกิจ
Corporate Internet
Corporate Internet คือ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับองค์กรที่เลือกความเร็วได้
ตามความต้องการในการใช้งาน สำหรับบริการ NT Corporate Internet Lite มีความโดดเด่นเรื่องความสามารถในการรับส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงด้วยการเชื่อมต่อบนโครงข่ายเส้นใยแก้วนำแสงแบบส่วนตัว ทำให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งการเชื่อมต่อในประเทศและต่างประเทศ ผ่านอินเทอร์เน็ตเกตเวย์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเชื่อมต่อตรงกับเกตเวย์หลักทั่วโลก ผ่านเคเบิลใต้น้ำระหว่างประเทศ 6 เส้นทาง รวมทั้งมีจุดเด่นอีกมากมาย ดังนี้
1. สามารถใช้งานได้เต็มความเร็วสูงสุด
• NT Corporate Internet มีการแยกช่องสัญญาณระหว่างลูกค้าองค์กรและกลุ่มลูกค้าทั่วไป ทำให้ความหนาแน่นของการใช้งานแยกกัน จึงสามารถใช้ความเร็วสูงสุดได้ตามแพ็คเกจที่ซื้อ
• การเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพไม่แชร์ความเร็วกับองค์กรอื่น
• สามารถเลือกสื่อสัญญาณได้ทั้งแบบ Ethernet, MPLS (เป็นไปตามมาตรฐานสากล MEF CE 3.0)
• สามารถออกแบบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เองตามการใช้งาน
• เพิ่มการดูแลพิเศษด้วยระบบ DDoS Attack Protection โดย ARBOR
2. รับประกันประสิทธิภาพในการรับส่งข้อมูล
• ลดภาระการบริหารจัดการเครือข่าย ด้วยบริการจากทีม NT ที่ดูแลอย่างใกล้ชิด
• สามารถออกแบบการใช้งานความเร็วได้ตามต้องการ แบ่งรูปแบบการใช้งานตามโครงสร้างองค์กรได้
• สามารถวิเคราะห์การใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพด้วยระบบ MRTG (Multi Router Traffic Grapher) Monitoring ดูรายงานกราฟสรุปการใช้งานได้แบบรายวัน รายเดือน และรายปี
3. การรับส่งข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ
• เชื่อมต่อตรงทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้ใช้งานอินเทอร์เน็ตได้เต็มประสิทธิภาพผ่าน NT IIG, Thailand IX และ IX ชั้นนำ เหมาะสำหรับกลุ่มภาครัฐที่ต้องติดต่อประสานงานกับต่างประเทศ เช่น สถานทูต หน่วยตรวจคนเข้าเมือง ท่าเรือ ศุลกากร เป็นต้น
• มีโครงข่ายครอบคลุมทั่วประเทศเข้าถึงทุกพื้นที่
4. บริการหลังการขาย (AFTER SALES SERVICE)
• รับประกันคุณภาพบริการ SLA 99.8% จากความเร็วอินเทอร์เน็ตที่ได้เลือกไว้
• มีบริการดูแลหลังการขายทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้แล้ว NT Corporate Internet Lite ยังมีบริการที่สามารถปรับแต่ง (Customized) ให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าอีกด้วย โดยจะทำการวิเคราะห์ปัญหาและความต้องการที่ผู้ใช้มี รวมทั้งให้คำแนะนำที่เหมาะสม หลังจากนั้นจึงลงมือติดตั้งและปรับแก้หากมีข้อปรับเปลี่ยน สามารถเพิ่มลดบริการหรือเสนอขอบเขตงานใหม่ให้ทาง NT ช่วยดูแลได้ ที่สำคัญคือ NT Corporate Internet Lite ยังมีความปลอดภัยสูงมากเมื่อเทียบกับอินเทอร์เน็ตบ้านที่นิยมใช้กัน เนื่องจากมีการแยกช่องสัญญาณระหว่างลูกค้าองค์กรและกลุ่มลูกค้าทั่วไป รวมทั้งการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุดจะทำให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพไม่แชร์ความเร็วกับองค์กรอื่น
อินเทอร์เน็ตบ้าน
อินเทอร์เน็ตบ้าน คือ รูปแบบการส่งสัญญาณอินเทอร์เน็ตผ่านสายแบบแบ่งสัญญาณกับผู้ใช้อื่น ซึ่งจะเห็นได้ว่าหากในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ตจำนวนมาก อัตราความเร็วในการดาวน์โหลด – อัปโหลดก็จะลดลง ตามสัดส่วนผู้ใช้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจุบันคนหนึ่งคนอาจมี Device มากกว่า 2 ชิ้น ทำให้สัดส่วนการแบ่งใช้งานนั้น เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น
นอกจากนี้ การใช้งานอินเทอร์เน็ตยังสามารถแบ่งตามลักษณะการใช้งานได้ ดังนี้ [2]
1. ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นโทรศัพท์มือถือ สำหรับบ้านที่ไม่ได้ใช้คอมพิวเตอร์ ไม่มีความจำเป็นต้องติดอินเทอร์เน็ตบ้าน เพราะการใช้อินเทอร์เน็ตบนโทรศัพท์มือถือก็เพียงพอสำหรับความต้องการแล้ว และยังสามารถใช้โทรศัพท์มือถือที่เป็น 4G ทำการเปิด Hotspot กับอุปกรณ์ที่รองรับ Wi-fi ตามความจำเป็นได้
2. ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อทำงานหรือเล่นเว็บไซต์ การใช้อินเทอร์เน็ตบ้าน ADSL ถือว่าเพียงพอสำหรับการส่งอีเมลหรือเล่นเว็บไซต์ซึ่งก็สามารถส่งไฟล์ อัปโหลดข้อมูล เปิดเว็บไซต์ได้โดยไม่ใช้เวลานาน แต่หากมีการส่งไฟล์ขนาดใหญ่บ่อย ๆ ก็ควรใช้อินเทอร์เน็ตแบบสายเคเบิลแทน
3. ใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อเล่นเกมหรือรับชมความบันเทิง อินเทอร์เน็ตบ้านที่มีลักษณะการใช้งานแบบนี้ควรใช้อินเทอร์เน็ตแบบไฟเบอร์ เนื่องจากการเล่นเกมต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเสถียรสูง ส่วนการรับชมความบันเทิง เช่น ดูหนังสตรีมมิ่งก็ต้องใช้อินเทอร์เน็ตที่มีความเร็วสูงเช่นกัน
เหตุผลที่ผู้ประกอบการไม่ควรนำอินเทอร์เน็ตบ้านมาใช้กับบริษัทเพราะขนาดพนักงานจำนวน 5 คน เฉลี่ยคน 1 คน มี Laptop และโทรศัพท์มือถือ ก็จะมีอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออย่างต่ำจำนวน 10 ชิ้น ที่ต้องแบ่งความ เร็วสัญญาณกัน ซึ่งนอกจากโทรศัพท์มือถือ ยังมีเครื่องพรินต์ ทีวี และอุปกรณ์ IOT อื่น ๆ เช่นกล้องวงจรปิด อีกด้วย อินเทอร์เน็ตบ้านจึงเหมาะที่จะใช้เพื่อการทำงานไม่หนักมาก หรือการ ดูหนัง ฟังเพลง สำหรับสมาชิก ประมาณ 4 ท่าน โดยมี Device รวมแล้วไม่เกิน 15 ชิ้น
NT Corporate Internet lite คืออะไร
NT Corporate Internet lite คือ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับองค์กรในราคาที่เหมาะสม ซึ่ง NT สามารถสร้างความแตกต่างและวางรูปแบบผลิตภัณฑ์ให้มีความ Premium มากกว่าบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ของผู้ให้บริการรายอื่น พร้อมพัฒนาคุณภาพบริการในส่วนของ SLA และปรับราคาให้สอดคล้องกับความต้องการ ในตลาด โดยมี 3 รูปแบบบริการให้เลือก ดังนี้
แบบที่ 1: Lease Line Internet คือ บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบเช่าใช้เฉพาะราย เชื่อมต่อวงจรโดยตรงแบบจุดต่อจุด (Point-to-point) จาก บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ สำนักงานแจ้งวัฒนะ ไปยังผู้ใช้งาน ผ่านระบบ Fiber Optic ที่มีเสถียรภาพสูง ครอบคลุม พื้นที่ให้บริการทั่วประเทศ
ผู้ใช้บริการจะได้ความเร็วจริงตามที่ต้องการตลอดเวลา ไม่ต้องแบ่งสัญญาณ (Non-Sharing) การใช้งานทั้งภายในประเทศ (Domestic) และต่างประเทศ (International) กับผู้ใช้บริการรายอื่นเหมือนอินเทอร์เน็ตบ้านทั่วไป โดยคำนึงถึงความปลอดภัยและโซลูชั่นพิเศษที่หลากหลาย ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแบบครบวงจร พร้อมทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและศูนย์ปฏิบัติการ Network Operation Center (NOC) ที่ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
นอกจากนี้ NT ยังจัดสรรหมายเลข Public IP Address แบบคงที่ (Fixed IP) ตามจำนวนที่ต้องการ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถวาง Server หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เช่น VPN Gateway เพื่อรองรับการเชื่อมต่อจากสำนักงานสาขา หรือการปฏิบัติงานนอกสถานที่ผ่าน VPN ได้
แบบที่ 2: Premium Leased Line Internet การใช้งานอินเทอร์เน็ตแบบ Full Bandwidth ที่แชร์ใช้ สัดส่วนระดับความเร็วอินเทอร์เน็ตในท่อเดียวกัน แบ่งเป็น
2.1 แบบ Package สามารถแบ่งเป็น 3 package ดังนี้
2.1.1 Advance Package สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตต่างประเทศได้ไม่น้อยกว่า 25% ของระดับความเร็ว ที่เลือกใช้ กรณีที่ใช้อินเทอร์เน็ตภายในประเทศอย่างเดียวจะใช้ได้สูงสุด 100% ของระดับความเร็วที่เลือกใช้ เหมาะสำหรับโรงเรียนขนาดใหญ่ มหาวิทยาลัย บริษัท โรงแรม โรงพยาบาล หรือโรงงานขนาดเล็ก เป็นต้น
2.1.2 Premium Package สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตต่างประเทศได้ไม่น้อยกว่า 50% ของระดับความเร็ว ที่เลือกใช้ กรณีที่ใช้อินเทอร์เน็ตภายในประเทศอย่างเดียวจะใช้ได้สูงสุด 100% ของระดับความเร็วที่เลือกใช้ เหมาะสำหรับสถาบันการศึกษา บริษัท โรงงานอุตสาหกรรม โรงแรม หรือโรงพยาบาลขนาดกลาง
2.1.3 All International Package ใช้งานอินเทอร์เน็ตต่างประเทศได้สูงสุด 100% ของระดับความเร็วที่ เลือกใช้ กรณีที่ใช้อินเทอร์เน็ตภายในประเทศอย่างเดียวจะใช้ได้สูงสุด 100% ของระดับความเร็วที่เลือกใช้เช่นกัน เหมาะสำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาว บริษัทนำเข้า/ส่งออกขนาดใหญ่ โรงงานอุตสาหกรรมที่มีสาขาในต่างประเทศหลาย สาขา หรือผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) ในท้องถิ่นที่ตั้งอยู่ตามจังหวัดต่าง ๆ
2.2. Tailor Made บริการอินเทอร์เน็ตที่กำหนดระดับความเร็วตามความต้องการของลูกค้า โดยแบ่งท่ออินเทอร์เน็ตภายใน
แบบที่ 3: Eco-Leased Line Internet อินเทอร์เน็ตรูปแบบใหม่ราคาประหยัด การใช้งานจะเป็นแบบ Shared Bandwidth โดยอัตราส่วนการใช้งานอินเทอร์เน็ตภายในประเทศและต่างประเทศจะมีคุณภาพกว่า อินเทอร์เน็ตบ้านทั่วไป ที่ไม่ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับธุรกิจที่กำลังเติบโตและ SME
NT Corporate Internet lite ให้อะไรบ้าง
ข้อดีของ NT Corporate Internet lite ที่ผู้ประกอบการจะได้รับมีดังนี้
1. บริษัทหรือองค์กรสามารถใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบ Premium ได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ โดยจะมีการแยกช่องสัญญาณระหว่างลูกค้าองค์กรและกลุ่มลูกค้าทั่วไปเพื่อการทำงานที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งจะมีการเชื่อมต่อแบบจุดต่อจุด ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพไม่แชร์ความเร็วกับองค์กรอื่นและสามารถ ออกแบบการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้เองตามความต้องการในการใช้งาน
2. มีบริการดูแลอย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมงทุกวัน มีทีมงานผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบปัญหาที่เกิดขึ้นและทำการแก้ไขได้อย่างทันท่วงที
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะสามารถเลือกระดับความเร็วอินเทอร์เน็ตตามความต้องการใช้งานขององค์กรได้ ตามอิสระ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถติดต่อเพื่อสอบถามการบริการเพิ่มเติมหรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ผ่านทาง Facebook Page : NT shop กรุงเทพและปริมณฑล หรือสามารถติดต่อผ่านทางเว็บไซต์ https://nt-metro-service.com
แหล่งอ้างอิง
[1] https://www.facebook.com/BangkokDesignWeek/posts/3703335483071709/
[2] https://bit.ly/3UpPDFd