Access Point คืออะไร ทำหน้าที่อะไร และเลือกแบบไหนดีให้ตอบโจทย์เรา

Access Point เป็นอุปกรณ์ชิ้นสำคัญที่ทำหน้าที่ช่วยให้อินเทอร์เน็ตของเราสามารถใช้งานได้ง่ายมากขึ้น จากการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ให้มีความทั่วถึงและกว้างขวาง ลดความเหนื่อยหน่ายใจจากปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ไม่มีคุณภาพ

ปัจจุบันความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีบทบาทมากขึ้นเป็นอย่างมาก จึงทำให้สัญญาณอินเทอร์เน็ตหรือ Wi-Fi กลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์ที่มีความสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา และด้วยเทคโนโลยีที่มีการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการที่จะใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเสถียรภาพเพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องต่าง ๆ เป็นที่ต้องการอย่างมาก แต่จะมีวิธีการเลือกอย่างไรให้ Access Point ตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด บทความนี้ได้รวบรวมคำตอบมาให้คุณแล้ว

Access Point คืออะไร?

Access Point (AP) หรือ แอคเซสพอยต์ คืออุปกรณ์ที่ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi จาก Router ให้มีความครอบคลุม เชื่อมต่อได้ง่าย รวมไปถึงมีความเสถียรมากในการใช้งานตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเฉพาะสำหรับสถานที่ที่มีจำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมาก เช่น อินเทอร์เน็ตองค์กรหรืออินเทอร์เน็ตโรงเรียน นอกจากนี้การติดตั้ง Access Point จะช่วยทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตของเราราบรื่น ไม่ติดขัด และสามารถใช้งานสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ที่มีความกว้างได้มากขึ้นจากเดิมเมื่อเทียบกับ Router 

โดย Router เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) และสามารถนำมาใช้งานควบคู่กับ Access Point ได้ ซึ่งหน้าที่ของ Access Point คือการกระจายสัญญาณ Wi-Fi ไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้สัญญาณ Wi-Fi เช่น สมาร์ตโฟน, คอมพิวเตอร์, แท็บเล็ต หรืออุปกรณ์อื่น ๆ

วิธีเลือก Access Point

แน่นอนว่าการเลือกประเภทของ Access Point คือหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้การกระจายสัญญาณของเรามีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น นั่นจึงทำให้เรารวบรวมวิธีการเลือก Access point ในรูปแบบต่าง ๆ มาให้คุณแล้วในบทความนี้ 

เลือก Access Point จากสถานที่ติดตั้ง

หนึ่งในสิ่งที่ควรทำในการเลือกติดตั้ง Access Point คือการดูว่าสถานที่ที่เราจะติดตั้งมีลักษณะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออุปกรณ์ Access Point แต่ละรูปแบบก็มีการออกแบบให้ใช้งานและติดตั้งในจุดต่าง ๆ ที่แตกต่างกันไป

• • Access Point กับสถานที่ติดตั้งแบบภายในอาคาร (Indoor)

หรือเรียกอีกอย่างว่า “Indoor Access Point” ก็คือ Access Point ที่เน้นติดตั้งในสถานที่ในร่ม เช่น ออฟฟิศ องค์กรต่าง ๆ โรงเรียน หรือห้างสรรพสินค้าเพื่อช่วยกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้ทั่วถึงและเท่าเทียมกัน โดยสามารถแบ่งแยกย่อยไปได้อีก 2 ประเภท ได้แก่

• • Access Point แบบฝ้าเพดาน
    • • คือ Indoor Access Point ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเพราะมีระยะการกระจายสัญญาณที่กว้างขวางและทั่วถึงอย่างเท่าเทียมกัน โดยรูปแบบที่ได้รับความนิยมคือรูปแบบเสาอากาศภายใน แต่สำหรับตัวอาคารที่ไม่ต้องการเน้นความสวยงามของสถานที่ ก็สามารถใช้ Indoor Access Point แบบเสาอากาศแทนได้ และข้อดีของอุปกรณ์รูปแบบนี้ก็คือสามารถหันปรับเสาอากาศเพื่อกระจายสัญญาณของ Access Point ไปตามทิศทางที่ต้องการได้อย่างอิสระ

• • Access Point แบบตั้งโต๊ะ
    • • คืออุปกรณ์ Access Point ที่ออกแบบมาในรูปแบบตั้งโต๊ะซึ่งมีขนาดที่เล็กและกะทัดรัด จึงทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับสถานที่ที่มีพื้นที่จำกัด และยังมีการออกแบบให้เลือกใช้งานทั้งแบบเสาอากาศภายในและภายนอกอีกด้วย แต่ข้อจำกัดของอุปกรณ์ Access Point ประเภทนี้คือระยะการกระจายสัญญาณที่จะไม่กว้างขวางเท่า Access Point สำหรับติดตั้งบนฝ้าเพดาน จึงทำให้ไม่เป็นที่นิยมเลือกใช้เท่าไหร่นัก

• • Access Point กับสถานที่ติดตั้งแบบภายนอกอาคาร (Outdoor)

หรือเรียกอีกอย่างว่า “Outdoor Access Point” คือ Access Point ที่เน้นใช้งานภายนอกสถานที่และตัวอาคารเป็นหลัก อุปกรณ์ Access Point แบบติดตั้งภายนอกอาคารจึงมีราคาสูง เนื่องจากต้องมีการออกแบบให้มีความคงทนเพื่อรองรับสภาพอากาศภายนอกอาคาร

เลือก Access Point จากจำนวนคนใช้งาน

อีกปัจจัยสำคัญในการเลือกประเภทของ Access Point คือการเลือกจากจำนวนคนใช้งาน (Number of Users) ใน Network ของเรา หากเป็นโฮมออฟฟิศที่มีจำนวนคนใช้งานน้อย ก็สามารถใช้ Access Point ขนาดเล็กที่เรียกว่า Small Office (SO) หรือ Home Office (HO) แทนได้ ซึ่งมีข้อดีคือมีราคาย่อมเยา 

แต่หากเป็นสถานที่ที่มีคนใช้งานจำนวนมาก เช่น ห้างสรรพสินค้าหรือออฟฟิศขนาดใหญ่ ก็ควรใช้งานแบบ Enterprise แทน เพราะกระจายสัญญาณที่คงที่และเสถียรมากกว่าการใช้งานทั่วไป แต่ก็จะมีราคาที่สูงตามไปด้วยเช่นกัน

เลือก Access Point ความสามารถในการกระจายสัญญาณ

ความสำคัญอีกอย่างของการเลือก Access Point คือควรเลือก Access Point ที่ทำหน้าที่กระจายสัญญาณตามที่เราต้องการได้ โดยอุปกรณ์Access Point จะมีการกระจายสัญญาณ 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วยกันได้แก่

• • การกระจายสัญญาณในแนวดิ่ง (Directional)
    • • อุปกรณ์ Access Point ประเภทนี้คืออุปกรณ์ที่ใช้งานเฉพาะจุดกับสถานที่ที่ต้องการกระจายสัญญาณอินเทอร์เน็ต โดยจะมีเสาสัญญาณยื่นออกมาตัวเครื่องอยู่เสมอเพื่อให้เราสามารถหันปรับทิศทางของเสาสัญญาณไปยังบริเวณที่เราต้องการเร่งสัญญาณได้

• • การกระจายสัญญาณแบบรอบทิศทาง (Omnidirectional)
    • • อุปกรณ์ Access Point ประเภทนี้คืออุปกรณ์ที่จะทำหน้าที่กระจายสัญญาณในแนวราบแบบรอบทิศทาง (Omnidirectional) ซึ่งส่งผลให้สามารถกระจายสัญญาณ Wi-Fi ได้อย่างทั่วถึง ลดปัญหาสัญญาณอินเทอร์เน็ตขาดหายได้

ทั้งนี้การติดตั้งอุปกรณ์ Access Point ด้วยเทคโนโลยีที่รองรับข้อมูลได้ในปริมาณสูง และมีคุณภาพอย่างสายไฟเบอร์ออฟติกเองก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ที่ทำให้คุณภาพของการส่งและการกระจายสัญญาณดีขึ้นด้วยเช่นกัน โดยหากต้องการคำปรึกษาหรือตามหาตัวแทนมีบริการรับเดินสายไฟเบอร์ออฟติก ก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาเพื่อรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่ NT Shop ได้

เลือก Access Point จากเทคโนโลยีที่ใช้

เคล็ดลับสุดท้ายสำหรับการเลือก Access Point คือการเลือกจากเทคโนโลยีที่ใช้ภายในองค์กร โดยสถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับการทำงานของระบบไร้สายเรียกว่า “IEEE 802.11” ซึ่งถือเป็นมาตรฐานที่มีอยู่ทั้งอุปกรณ์ต้นทางที่ส่งกระจายสัญญาณ และอุปกรณ์ปลายทางทุกชนิดที่เข้ามาเชื่อมต่อ ซึ่งมีหลายมาตรฐานและข้อกำหนดที่แตกต่างกันไป 

ซึ่งการเลือก Access Point จากเทคโนโลยีที่ใช้เป็นอีกจุดที่เราควรให้ความสนใจก่อนจะเลือกติดตั้งว่าอุปกรณ์ใน Network เป็นมาตรฐานเดียวกันกับ Access Point หรือไม่ เพราะหากเลือกติดตั้ง Access Point โดยที่อุปกรณ์ใน Network ไม่เป็นมาตรฐานเดียวกัน ก็จะมีผลเสียคือการที่อุปกรณ์ของเราไม่รองรับสัญญาณจาก Access Point และไม่สามารถทำให้การใช้งานของเราดีขึ้นได้

นอกจากนี้หากมีการใช้ระบบเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างเช่น Cloud PBX ในการสื่อสารภายในองค์กร ก็ควรเลือกใช้งาน Access Point ที่มีมาตรฐานตรงกัน เพื่อที่จะได้มีการกระจายสัญญาณที่เสถียรและสามารถรองรับจำนวนผู้ใช้งานจำนวนมากได้อีกด้วย

เปรียบเทียบ Access Point กับ Router และ Extender, Repeater ว่าคืออะไร มีจุดเด่นจุดด้อยอะไรบ้าง

นอกจาก Access Point แล้วก็ยังมีอุปกรณ์สำคัญอื่น ๆ ที่เราจะต้องติดตั้งเพื่อที่จะใช้งานและทำหน้าที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้อย่างราบรื่น ซึ่งอุปกรณ์ที่ควรทำความรู้จัก คือ

หน้าที่	จุดเด่น	จุดด้อย
Access Point	กระจายสัญญาณ Wi-Fi ที่เป็นระบบพื้นฐานของเครือข่าย LAN ให้อุปกรณ์เข้าถึงได้ง่ายขึ้น	– ติดตั้งและเข้าถึงได้ง่าย อุปกรณ์มีให้เลือกหลายรูปแบบตามความต้องการของผู้ใช้งาน  – มีค่าใช้จ่ายที่สูง โดยเฉพาะ Outdoor Access Point
Router	ใช้ในการเชื่อมต่อระบบเครือข่ายจากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และเป็นตัวกลางในการส่งข้อมูลจากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้กับอุปกรณ์ที่รองรับสัญญาณ Wi-Fi	– มีความยืดหยุ่นสูง สามารถรองรับและเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้หลายชนิด สามารถตั้งค่ารหัส (password) เพื่อเพิ่มความปลอดภัยได้  – มีข้อจำกัดในเรื่องการกระจายสัญญาณในบางพื้นที่ โดยเฉพาะสถานที่ที่มีบริเวณกว้างเป็นอย่างมาก เช่น พื้นที่สาธารณะหรือห้างสรรพสินค้า
Extender Repeater	ทำหน้าที่ทวนสัญญาณ Wi-Fi เพื่อให้รัศมีและสัญญาณกว้างขึ้น มักจะนิยมนำไปวางในจุดที่สัญญาณ Wi-Fi อ่อน	– เพิ่มประสิทธิภาพของการเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ให้มีความครอบคลุมและทั่วถึงมากขึ้น – การทวนสัญญาณอาจลดความเร็วของสัญญาณอินเทอร์เน็ตและรบกวนการทำงานของอุปกรณ์เครื่องอื่น ๆ ที่ต้องใช้ Wi-Fi ในบริเวณเดียวกัน

ประโยชน์ของ Access Point

1. 1. ช่วยกระจายสัญญาณ Wi-Fi จาก Router ให้มีระยะที่กว้างและเสถียรมากยิ่งขึ้น

1. 1. มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานตามความต้องการของผู้ใช้งาน เช่น Indoor Access Point หรือ Outdoor Access Point

1. 1. ติดตั้งง่าย ไม่จำเป็นต้องเดินสาย LAN 

ข้อจำกัดของ Access Point

1. 1. หากเลือกติดตั้ง Access Point แต่อุปกรณ์ใน Network เป็นคนละมาตรฐาน IEEE อุปกรณ์นั้นก็จะไม่สามารถรับสัญญาณ และไม่สามารถทำให้การใช้งานดีขึ้นได้

1. 1. มีความปลอดภัยที่น้อยกว่าหากเทียบกับ Router เพราะไม่สามารถตั้งรหัสผ่าน (password) ได้

1. 1. ระดับความเสถียรของสัญญาณขึ้นอยู่กับตำแหน่งและสถานที่ที่ติดตั้ง Access Point

คำถามที่พบบ่อย

AP Mode คืออะไร?

Access Point Mode (AP Mode) คือโหมดการทำงานพื้นฐานที่ทำหน้าที่ช่วยกระจายสัญญาณไร้สายไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านสาย LAN และทำให้อุปกรณ์ทุกชนิดที่อยู่ในรัศมีของเครื่อง Access Point ที่อยู่ในโหมด AP สามารถเชื่อมต่อเข้าถึงสัญญาณ Wireless ได้ 

มาตรฐาน Access Point คืออะไรดูยังไง?

มาตรฐานของ Access Point ก็คือชุดรหัส IEEE ที่ติดอยู่บนตัวอุปกรณ์ โดยสถาบันวิชาชีพวิศวกรไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ได้กำหนดมาตรฐานสำหรับการทำงานของระบบไร้สายเอาไว้เรียกว่า “IEEE 802.11” ซึ่งเราสามารถดูชุดรหัสเหล่านี้ได้ที่อุปกรณ์ต้นทางและอุปกรณ์ปลายทาง 

หากชุดเลขหลัง IEEE ของ Router, Access Point และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อนั้นให้ชุดเลขมาตรฐานเดียวกัน ก็จะสามารถทำให้อุปกรณ์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สรุปเกี่ยวกับ Access Point

Access Point ถือเป็นอุปกรณ์ระบบเครือข่ายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการขยายสัญญาณ และรักษาความเสถียรของการใช้งานอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังมีข้อดีคือติดตั้งได้ง่ายและไม่ยุ่งยากอีกด้วย ซึ่งอีกเคล็ดลับที่จะช่วยรักษาคุณภาพของสัญญาณอินเทอร์เน็ตนั่นก็คือการเลือก Access Point ที่เข้ากับสภาพแวดล้อมของเราด้วยนั่นเอง

ทั้งนี้หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมและต้องการปรึกษาเรื่องการติดตั้ง Access Point ก็สามารถติดต่อสอบถามเข้ามาที่ได้ NT Shop โดยตรง เพราะเราเป็นผู้เชี่ยวชาญการรับติดตั้ง Access Point และรับทำ MA ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ตองค์กรหรืออินเทอร์เน็ตโรงเรียน ก็สามารถให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญและรับวางระบบ Network ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้ทุกประเภท

สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อเราได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้

• • Facebook: NT shop กรุงเทพและปริมณฑล

• • Line: @NTSMESolutionBKK

• • Tel: 02-575-5151