พัฒนาเทคโนโลยี Smart Mobility เพื่อก้าวสู่การเป็น Smart City อย่างมีคุณภาพ ผ่านการวางรากฐานระบบสัญจรอัจฉริยะ เพื่อสร้างโครงข่ายการคมนาคม การขนส่งให้สะดวก และตอบโจทย์การใช้ชีวิตของพลเมืองให้ดียิ่งขึ้น มาร่วมสำรวจความหมาย แผนการพัฒนา ประโยชน์ และแนวโน้มของความก้าวหน้าในการพัฒนา Smart Mobility ทั่วโลกไปพร้อม ๆ กันผ่านบทความนี้
Smart Mobility คืออะไร?
Smart Mobility คือหนึ่งในแกนสำคัญของการพัฒนา Smart City อย่างเต็มรูปแบบ โดย Smart Mobility หมายถึง การพัฒนาโครงข่ายการสัญจรอัจฉริยะจากเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยอย่าง Big Data และ AI เพื่อนำมาเพิ่มประสิทธิภาพการสัญจรในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการขนส่งสินค้า การอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวภายในประเทศ
โดยจุดประสงค์หลักของ Smart Mobility นั้น คือการพัฒนาคุณภาพชีวิตในด้านของการเดินทาง และการขนส่ง เช่น การเพิ่มจำนวนที่จอดรถให้เพียงพอสำหรับพลเมือง และนักท่องเที่ยว การเพิ่มคุณภาพของขนส่งสาธารณะให้ทั่วถึง เชื่อมต่อกันได้ทุกพื้นที่ การผลิตยานพาหนะที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมไปถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อให้สามารถใช้คู่กับการคมนาคม และการขนส่งได้ด้วยเช่นกัน
ปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนา Smart Mobility
Smart Mobility จะเกิดขึ้นได้จริงนั้น จำเป็นต้องมีปัจจัย และการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมที่มากกว่าแค่การเพิ่มทางเลือกสำหรับการเดินทาง แต่ต้องรวมไปถึงการพัฒนาตั้งแต่ด้านการคมนาคม ด้านสภาพแวดล้อม ด้านความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และความปลอดภัยดังนี้
- ความหลากหลายของเส้นทางการเดินรถ (Flexibility) การพัฒนาให้แต่ละพื้นที่มีทางเลือกสำหรับการคมนาคมที่หลากหลาย ตอบโจทย์ทุกสถานการณ์ในการเดินทาง ไม่ว่าจะสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว การเดินทางเพื่อไปทำงาน ไปจนถึงการเดินทางภายในชีวิตประจำวันทั่วไป
- ประสิทธิภาพของการคมนาคม (Efficiency) ช่วยให้คุณภาพการใช้ชีวิตในส่วนของการเดินทางเป็นไปได้อย่างราบรื่นที่สุด พบอุปสรรคในการเดินทางน้อยที่สุด และใช้ระยะเวลาในการเดินทางน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
- โครงข่ายการสัญจรที่เชื่อมต่อกัน (Integration) ทุกเส้นสายของการคมนาคมควรเชื่อมต่อกัน เพื่อให้การเปลี่ยนเส้นทางการสัญจรง่ายขึ้น และเป็นระบบมากยิ่งขึ้น
- เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Environmentally friendly) เป็นการผสานกันของสองแกนหลักอย่าง Smart Environment และส่งผลต่อมายัง Smart Mobility ที่จะทำให้การคมนาคมลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์
- ความปลอดภัยของการคมนาคม (Safety) ลดอัตราการเกิดอุบัติเหตุ และความรุนแรงจากการคมนาคมให้ลดน้อยลง
Smart Mobility สำคัญอย่างไร?
Smart Mobility มีความสำคัญในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตพลเมืองผ่านการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้งาน ควบคู่กับการพัฒนาการคมนาคมภายในประเทศ นอกจากนี้ Smart Mobility ยังเป็นกุญแจสำคัญอันดับแรก ๆ ในการช่วยพัฒนา Smart City ให้เกิดขึ้นจริง และมีความสำคัญอื่น ๆ อีกมากมายดังนี้
Smart Mobility เป็นส่วนสำคัญในการพัฒนา Smart City ให้เกิดขึ้นจริง
Smart City จะเกิดขึ้นได้จริงนั้น ต้องมีการพัฒนา Smart Mobility เป็นสิ่งสำคัญ เพราะ Smart Mobility เป็นหนึ่งในแกนหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของพลเมือง และยังส่งผลต่อแกนหลักอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การมี Smart Mobility ที่ดี จะทำให้เกิด Smart Living และ Smart Environtment ที่ดีตามมา รวมถึงผลักดันการใช้ Smart Grid ในเมืองเป็นต้น
Smart Mobility ช่วยพัฒนาศักยภาพโครงข่ายการคมนาคมให้ดียิ่งขึ้น
เพิ่มศักยภาพการคมนาคมด้วย Smart Mobility ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มพื้นที่สัญจร เชื่อมต่อทุกการคมนาคมให้ง่าย และใกล้กันมากที่สุด รวมไปถึงการพัฒนาการขนส่งด้วยเทคโนโลยีอย่าง AI, Sensors และ Application เพื่อส่งเสริมภาคธุรกิจ
Smart Mobility ช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัด
การพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมอย่าง Smart Mobility ด้วยการพัฒนาเส้นทางเดินรถสาธารณะให้เพิ่มจำนวน และมีการเชื่อมต่อระหว่างเส้นทางกันมากยิ่งขึ้น นอกจะช่วยลดจำนวนรถบนท้องถนนให้น้อยลงแล้ว ยังช่วยลดทั้งปริมาณการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และช่วยแก้ปัญหาการจราจรติดขัดได้ดีอีกด้วย
Smart Mobility ช่วยลดมลพิษทางอากาศ
Smart Mobility เป็นหนึ่งในการพัฒนาการคมนาคมที่มีส่วนช่วยให้ทั่วโลกบรรลุภารกิจลดก๊าซเรือนกระจก หรือการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ได้ ยกตัวอย่างเช่น นโยบาย Carsharing ที่สนับสนุนให้ผู้คนใช้รถร่วมกันหากเดินทางเส้นเดียวกัน โดยนโยบายดังกล่าวช่วยลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ได้
Smart Mobility ช่วยพัฒนาการขนส่งภาคอุตสาหกรรม
ไม่เพียงแต่พัฒนาการคมนาคมในชีวิตประจำวันของคนทั่วไปเท่านั้น แต่ Smart Mobility นั้น ยังครอบคลุมไปถึงการพัฒนาการขนส่งภาคอุตสาหกรรม ยกตัวอย่างเช่น รถพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า (Hyperloop) ที่นอกจากจะใช้เพื่อการคมนาคมได้อย่างรวดเร็วแล้ว ยังเป็นประโยชน์ในด้านการขนส่งสินค้าเพื่อส่งออกต่างประเทศอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Smart Building ตัวช่วยสำคัญที่ช่วยด้านการออกแบบและพัฒนา Smart City
Smart Mobility การประยุกต์ใช้งานจริงของการเดินทาง และการขนส่งอัจฉริยะ
ในปัจจุบันเริ่มมีการพัฒนาเทคโนโลยีหลากหลายรูปแบบเพื่อนำมาประยุกต์ใช้สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพของการคมนาคม เส้นทางการเดินทาง และยานพหนะให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแบบ Smart City มากยิ่งขึ้น โดยการประยุกต์ใช้งาน Smart Mobility กับการเดินทาง และการขนส่งในชีวิตประจำวันนั้นมีดังนี้
Mobility as a Service (MaaS)
เพิ่มคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นด้วย Mobility as a Service (MaaS) เป็นการประยุกต์ใช้ Smart Mobility อย่างชาญฉลาด เพื่อแก้ Pain Point ในเรื่องของการเดินทางของผู้คนในปัจจุบัน ผ่านการทำธุรกิจ MaaS ซึ่งเป็นการรวบรวมบริการการขนส่งทุกรูปแบบเอาไว้โลกดิจิทัล ยกตัวอย่าง Smart Mobility Provider ที่รู้จักกันดีในประเทศไทยในปัจจุบันนั้นก็คือ Uber, Lineman หรือ Grab Taxi เป็นต้น
รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle)
รถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) นั้น เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างจากการประยุกต์ใช้ Smart Mobility ที่ช่วยสร้างประโยชน์ให้กับชาวโลก และสภาพแวดล้อมได้ดีเช่นกัน โดยในปัจจุบันทั่วโลกเริ่มหันมาให้ความสำคัญ และให้ความสนใจในการพัฒนารถยนต์ไฟฟ้ากันมากยิ่งขึ้น เพราะมีข้อดีทั้งในเรื่องของการลดการผลิตก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ รวมไปถึงยังมีฟีเจอร์ช่วยให้การขับขี่ปลอดภัย และง่ายดายยิ่งขึ้น
Intelligent Transportation Technology
เพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งมวลชน และการคมนาคมด้วย Intelligent Transportation Technology (ITS) เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้น และเป็นส่วนหนึ่งของ Smart Mobility ที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนน ทั้งสำหรับการเดินทางทั่วไป และการขนส่งสินค้าให้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น กล้องวงจรปิดสำหรับตรวจจับคนขับรถเร็ว, ป้ายบอกความเร็วที่ตัวเลขเปลี่ยนแปลงได้, ข้อมูลการจราจรแบบดิจิทัลจาก Google Maps รวมไปถึงเลนรถจักรยาน เลนรถเมล์ และช่องเดินรถมวลชน (HOV) เป็นต้น
Carsharing
บริการให้เช่ารถระยะสั้นทั้งรูปแบบ P2P และ B2C เป็นหนึ่งในธุรกิจจาก Smart Mobility ที่เติบโตอย่างรวดเร็วถึง 39% ต่อปี โดยมีผลสำรวจการใช้บริการเช่ารถ 1 ครั้ง สามารถช่วยลดจำนวนรถยนต์บนถนนได้มากถึง 20 คัน เป็นอีกหนึ่งการสนับสนุนให้ผู้คนทั่วไปที่มีรถที่ไม่ได้ใช้ให้นำออกมาปล่อยเช่าเพื่อสร้างกำไร
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Smart Mobility
Smart Mobility จะช่วยเปลี่ยนแปลงวิถีการใช้ชีวิต การเดินทาง และการขนส่งของผู้คนให้ดีขึ้นได้อย่างไร
Smart Mobility จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิต พร้อมสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับทุกการขนส่ง และการเดินทางให้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ Smart Mobility นั้น ไม่ได้ครอบคลุมอยู่เพียงแค่การพัฒนาศักยภาพของยานพาหนะ หรือช่องทางการใช้บริการขนส่งเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการลดค่าใช้จ่ายสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน เพิ่มความปลอดภัยในทุก ๆ การเดินทาง พัฒนาเครื่องมือช่วยเหลือสำหรับการเดินทาง และการอนุรักษ์ ที่จะช่วยฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
Smart Mobility ต่างกับ Smart Transportation อย่างไร?
โดยทั่วไปแล้ว Smart Mobility นั้นจะกล่าวถึงความง่าย ความสะดวกสบาย และการมีอิสระในการเดินทาง แต่หากกล่าวถึง Smart Transportation นั้น มักจะกล่าวถึงศักยภาพ และคุณภาพของยานพาหนะ
IoT ช่วยเรื่อง Smart Mobility อย่างไร?
เพิ่มศักยภาพการทำงานของ Smart Mobility ด้วย Internet of Things (IoT) ผสานเทคโนโลยีสุดล้ำสมัยเพื่อส่งเสริมการคมนาคม และการขนส่งให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัญญาณจราจร กล้องตรวจจับความเร็ว เซนเซอร์ และคุณภาพของยานพาหนะ
แนวโน้มการพัฒนา Smart Mobility ในอนาคต
การพัฒนาของ Smart Mobility ในอนาคตเมื่อเทคโนโลยีมีการพัฒนาล้ำหน้าขึ้นไปมากกว่าในปัจจุบันนั้น จะช่วยให้ทุกการเดินทาง และการขนส่งเป็นได้อย่างสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นเมื่อมีการใช้งานร่วมกันทั้งเทคโนโลยีสมัยใหม่, IoT รวมไปถึงการขยับขยายพื้นที่สัญจร นอกจากนี้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ Smart Mobility ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตขึ้นอีกมากด้วยเช่นกัน
สรุป: Smart Mobility Solutions ทางออกสู่การพัฒนา Smart City ให้เป็นจริง
หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกต่างเริ่มเดินหน้าพัฒนา Smart Mobility เพื่อเข้าสู่ Smart City อย่างแท้จริง ทำให้ปัจจัยสำคัญอย่างเทคโนโลยีสมัยใหม่ พร้อมสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็ว แรง และเสถียรกลายเป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน และสำหรับองค์กรที่ต้องการพัฒนาระบบการเดินทางแบบดิจิทัล ที่ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บข้อมูล การพัฒนาแอปพลิเคชัน ซอฟต์แวร์ หรือระบบแจ้งเตือนข้อมูลเพื่อให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการคมนาคม และการขนส่งของธุรกิจคุณสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT เราพร้อมรองรับการให้บริการเพื่อ Smart City
NT เราพร้อมให้บริการวางระบบ Network ที่ครอบคลุม และมีความเสถียรของสัญญาณอินเทอร์เน็ตภายในองค์กรจาก Lease Line รวมไปถึงระบบซอฟแวร์ การจัดเก็บข้อมูลการเดินทางที่จะช่วยให้การพัฒนาธุรกิจโครงข่ายคมนาคม การขนส่ง รวมไปถึงธุรกิจ MaaS และทุก ๆ ธุรกิจของคุณมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น หากสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นทาง NT ยังมีบริการรับทำ MA และเดินสายไฟเบอร์ออฟติกที่ตอบโจทย์ สามารถติดต่อได้ผ่านช่องทางดังต่อไปนี้
- Facebook:NT shop กรุงเทพและปริมณฑล
- Line:@NTSMESolutionBKK
- Tel: 02-575-5151
References
Why Should We Care About Smart Mobility?. (N.d.). iMove. https://imoveaustralia.com/topics/smart-mobility/#:~:text=Reducing%20the%20number%20of%20vehicles,to%20move%20around%20a%20city
Peter FalkWhat is Smart Mobility?. (N.d.). Auto Pi. https://www.autopi.io/blog/what-is-smart-mobility/#why-should-we-care-about-smart-mobility
IoT for Smart Mobility. (N.d.). Velos. https://info.velosiot.com/quick-guide-smart-mobility